แม้ว่าการปั่น Stationary Bike หรือปั่นบนเทรนเนอร์จะเป็นตัวเลือกหลักในช่วงหน้าฝนสำหรับเพื่อนนักปั่นหลายๆ คน แต่ การปั่นในยิม ในบ้านก็ไม่อาจทดแทนการปั่นจักรยาน Outdoor ได้แน่นอน…หัวใจนักปั่นมันต้องการสายลมและแสงแดด
ปั่นในช่วงหน้าฝนสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ พื้นถนนจะลื่นมากกว่าเดิม โอกาสลื่นล้มสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นการปั่นจึงต้องการสมาธิ การสังเกตสภาพถนน เทคนิคการเข้ากลุ่ม การเข้าโค้งมากกว่าเดิม
1. ตรวจผ้าเบรกพร้อมทั้งสายเบรกก่อนออกปั่นเสมอ ในช่วงฤดูฝน ระบบเบรก ไม่ว่าจะเป็นตัวผ้าเบรก สายเบรก จะถูกใช้งานมากเป็นพิเศษ เศษดินเศษทรายชิ้นเล็กชิ้นน้อยจะถูกพัดเข้ามาและติดตามขอบล้อมากกว่าปกติ ทำให้ผ้าเบรกโดนกินและสึกเร็ว
2. วิสัยทัศน์ต้องชัดเจน ดังนั้นการเลือกใส่แว่นตาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งช่วยป้องกันละอองน้ำและเม็ดฝนเข้าตา และออปชั่นเพิ่มเติมก็ต้องเป็นหมวก cap จักรยาน ใส่เพื่อป้องกันน้ำและเหงื่อไหลเข้าตา
3. ปรับเปลี่ยนล้อยาง เลือกล้อยางที่มีดอกมากขึ้นและขนาดกว้างขึ้น (ขนาด 23-25 ) และอย่าลืมลดความดันยางลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ยึดเกาะถนนมากขึ้น
4. ระวังจุดเข้าโค้งมากขึ้น ต้องมองไปข้างหน้าและประเมินการเข้าโค้งทุกครั้ง มองหาไลน์ เบรกเพื่อลดความเร็วก่อนถึงโค้ง การดึงเบรกแรงไประหว่างเข้าโค้งในบางครั้งจะทำให้เกิดการ drift หรือ Skid จนลื่นล้มได้ และอย่าลืมใช้วิธีเข้าโค้งแบบ Steering นะครับ ใช้ได้ดีในสภาวะถนนลื่น
ว่าแล้วเรามาดูเทคนิดการเข้าโค้งกันดีกว่า……….
5. เพิ่มไฟ LED ให้มากขึ้น เนื่องจากบรรยากาศในช่วงฝนมันจะมืดอึมครึม ดังนั้นการเพิ่มสัญญาณไฟจะช่วยให้คนที่ตามหลังหรือคนที่อยู่ข้างหน้าสามารถสังเกตเห็นเราได้เร็วขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้รถยนต์มาสอยหลังเราได้ระดับหนึ่งละ ถ้าไม่ซวยจริงๆ
สำหรับใครที่ไม่อยากเอาจักรยานลูกรักไปเสี่ยงและเสียหายเพราะลื่นล้มในช่วงหน้าฝน ก็แนะนำให้ลองใช้จักรยานเสือภูเขาแทนหรือถ้ามีจักรยานเก่าๆ สักคันก็ใช้ปั่นแทนได้ สบายใจกว่ากันเยอะ