มี 3 ปัจจัยที่เรามักจะมองข้ามอยู่บ่อยๆ StepExtra จึงอยากให้เหล่านักวิ่งลองสังเกตดูใหม่อีกครั้ง และอาจจะเป็นสาเหตุให้ร่างกายเราไม่สามารถพัฒนาให้วิ่งได้เร็วขึ้นและไปได้ไกลมากขึ้น
1. การหายใจ
“หายใจไม่ทัน” เป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับนักวิ่งทั่วไป ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากออกวิ่งได้สักพักหนึ่ง หรือช่วงเวลาที่กำลังทำความเร็ว
สาเหตุของอาการมาจากการส่งลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อขาไม่สัมพันธ์กันกับปริมาณออกซิเจนที่หัวใจและปอดลำเลียงไป เพราะเมื่อเริ่มวิ่งกล้ามเนื้อขาต้องการออกซิเจนปริมาณมากทันที เเต่ร่างกายจำเป็นต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งในการตอบสนอง หรือขอเวลาเดินเครื่องก่อนนะ เรียกว่ากว่าจะตรวจพบว่ากล้ามเนื้อขาว่าต้องการออกซิเจน ก็เเย่แล้ว กล้ามเนื้อขาได้อยู่ในสภาวะใช้พลังงานเเบบ anaerobic (oxygen-free) ทำให้เกิดความเมื่อยล้าสะสม นี้เลยเป็นสาเหตุให้เราควรทำการ warm-up ร่งกาย กระตุ้นให้มีการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายให้ทั่วถึงซะก่อน
2. วิ่งเป็นประจำเเต่ทำไม่ ไม่เร็วขึ้นเลย
สาเหตุอาจจะเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ฝึกกล้ามเนื้อกลุ่ม fast-twitch fibre ในการวิ่งเรามักจะใช้ความเร็วในการวิ่งคงที่ ฝึกก็อาจจะใช้ความเร็วเท่าที่รู้สึกไม่เหนื่อยเกินไป สามารถประคองไปได้ ทำให้ร่างกายเกิดการใช้งานกล้ามเนื้อกลุ่ม slow-twitch muscle fibre บ่อยที่สุด เป็นกล้ามเนื้อที่เบริ์นพลังงานน้อย ทนต่อการวิ่งนานๆ เเต่ข้อเสียคือ กล้ามเนื้อชุดนี้ไม่ได้ใช้เร่งทำความเร็วเร็วนะ เพื่อให้เราวิ่งได้เร็วจำเป็นต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อกลุ่ม fast-twitch fibre เพิ่มขึ้นมา เเต่ข้อเสียคือ กล้ามเนื้อกลุ่มนี้ต้องการพลังงานและออกซิเจนมากกว่าเเบบ Slow-twich fibre
วิธีฝึกกล้ามเนื้อกลุ่มนี้คือการฝึกเเบบ explosive movement ตัวอย่างสามารถดูในคลิปเลยครับ….
3. ยอมเเพ้ ใจไม่สู้
เรื่องอย่างนี้เป็นปัญหาของจิตใจครับ มักเกิดขึ้นกับมือใหม่ที่อยากวิ่งให้ได้เร็ว จบเวลาดีเหมือนนักวิ่งที่ทั่วไป เเต่หารู้ไม่ว่าการวิ่งระยะไกล…ขออนุณาตนับตั้งเเต่ 15 กิโลเมตรขึ้นไปนะครับ จำเป็นต้องมีการฝึกอย่างมีเเบบแผน มีการฝึกกล้ามเนื้อ มีการฝึกความเร็ว มีการฝึกการกินอาหารน้ำระหว่างวิ่งและมีการฝึกพักผ่อน เป็นต้น
นักวิ่งมักจะทำสิ่งที่เรียกว่า too much too soon ค่อนข้างบ่อย นั้นคือ ลงสนามระยะทางไกล ทั้งที่ฝึกมาไม่พร้อม โหมวิ่งจนบาดเจ็บ เชื่อว่าใจถึงอะไรก็เป็นไปได้ เเต่เอาเข้าจริงๆ อาการบาดเจ็บมักถามหาทุกคน การฝึกวิ่งทางไกลต้องอาศัยระยะเวลาเป็นเดือนๆ เพื่อสร้างฐานที่มั่นคง มีฝึก Endurance ฝึก Speed และฝึก power ผสมกันไป ทางที่ดีเราควรเริ่มเข้าชมรม และกลุ่มนักวิ่งเพื่อค่อยๆ พัฒนาตนเองครับ งานวิ่งต่างๆ ไม่ได้หนีไปไหน ยังคงจัดอยู่เรื่อยๆ
การอาศัยตารางฝึกเพื่อเก็บเป้าหมายทีละขั้น จะเป็นเเรงกระตุ้นที่ดีกว่าการกระโดดไปสู่เป้าหมายใหญ่ทีเดียว เพราะถ้าพลาดเเล้วจะปลุกต่อมันใช้เเรงใจเยอะมาก ถึงขั้นถอดใจไม่วิ่งเลยก็มี…ว่าเเล้วเราก็เเถมตารางฝึกวิ่งให้เป็นกำลังใจละกัน
