รองเท้าวิ่ง คือ อุปกรณ์ประกอบกิจกรรมวิ่งเพื่อเปลี่ยนชีวิตชิ้นแรกที่สร้างความปวดหัวให้นักวิ่งมากที่สุด มือใหม่ อาจจะมีคำถามว่าเราเพิ่งเริ่มต้นวิ่ง…จะเลือกรองเท้าอย่างไรดี มีหลายรุ่นเหลือเกินเลือกไม่ถูก แต่ส่วนมือเก๋า…จะถามว่าเดือนนี้เดือนหน้าจะลองคู่ไหนดี ไล่เก็บแต้มรองเท้าที่ถูกตาถูกใจไปเรื่อยๆ
สำหรับมือใหม่จะเลือกรองเท้าสักคู่ เริ่มอย่างไรก่อนดี…ลองตั้งงบรองเทาคู่แรกไว้ก่อน รองเท้าในราคาช่วง 2000-3000 บาท แบรนด์ราคาไม่แรงก็จะเป็นของ Brooks, sketcher กับ New Balance ที่สำคัญสองยี่ห้อนี้ชอบมีลดบ่อยๆ สำหรับใครที่มองหาราคาถูกกว่านี้ต้องไปดูที่ outlet ของแบนรด์หรือร้านขายอุปกรณ์วิ่งเฉพาะ หรือไปหน้าราม ตรงไปที่ตึก FBT ก็จะมีราคาลดพิเศษออกมาบ่อยๆ
ก่อนจะเลือกซื้อรองเท้าสักคู่ อยากจะบอกนักวิ่งมือใหม่ว่า รองเท้าไม่สามารถทำให้นักวิ่ง วิ่งได้เร็วขึ้น แต่ช่วยให้เกิดความคล่องตัว ความสบายเท้า ให้ความกระชับและมั่นใจเวลาลงก้าว (stripe) การจะวิ่งเร็วได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและขัดเกลาเทคนิคเป็นแรมปี
วิ่งแล้วเจ็บเท้าเจ็บเข่า เพราะรองเท้าไม่ดีหรือ…ถ้ารองเท้าไม่ดีนั้นคือ รองเท้าไม่เข้ากับรูปเท้าของเรา คนเอเชียหน้าเท้าจะกว้างแบน รองเท้าส่วนมากจะทำอออกมาหน้าเรียว ดังนั้นจะมีการบีบรัดหน้าเท้า ส่วนวิ่งแล้วเจ็บเข่าเจ็บเท้า สามารถแบ่งสาเหตุออกเป็น…
- ตั้งท่าวิ่งผิด หรือตั้ง Posture ผิด ทำให้เกิดการลงเท้าไปข้างหน้ามากกว่าปกติ ส้นเท้าจะลงพื้น แทนที่ฝ่าเท้าจะลงและมีสปริงในการถ่ายเทน้ำหนัก เพราะส้นเท้ามันไม่มีเอนหรือสปริงในการถ่ายเทน้ำหนัก ขาจึงรับน้ำหนักมากปกติ แรงกดจะถูกถ่ายไปยังฝ่าเท้า แข้ง เข่า น่อง เอว และหลัง ทำให้เกิดการปวดกล้ามเนื้อตามมา การฝึกท่าวิ่งเป็นเรื่องสำคัญ นักวิ่งสามารถดูท่าวิ่งที่ถูกต้องได้ตามยูทูป อย่างเช่น ยูทูปของครูดิน แคมป์จอมบึงมาราธอน หรือคลิปฝรั่งที่เรียกว่า Pose running ดูได้ครับ
- น้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้น้ำหนักที่การกระแทกมากเกินกล้ามเนื้อจะรับได้ ดังนั้นให้ลองใช้วิธีการเดิน และเดินเร็วเบื้องต้นเพื่อลดน้ำหนักตนเองลงก่อน และสร้างกล้ามเนื้อรองรับการออกกำลังกายขึ้นมาใหม่ ลองใช้วิธีปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำที่เป็นกีฬา Low impact
- Too much too soon อย่างนี้เรียกว่าวิ่งเร็วไป มากเกินไป การวิ่งเพื่อพัฒนาตนเอง ให้วิ่งได้เร็วและนาน ต้องค่อยๆ พัฒนาเป็นขั้นบันได มีวันฝึกกล้ามเนื้อสร้างความแข้งแกร่ง ฝึกคาร์ดิโอสร้างระบบหายใจและการทำงานของหัวใจ และมีวันพัก เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักและฟื้นฟู การจะไปถึงระยะมาราธอนต้องอาศัยเวลาเป็นแรมปี 5-6 เดือนเลยก็ว่าได้ ค่อยๆ ไต่ระยะ 5K 10K 21K ไปเรื่อยๆ …ที่สำคัญการวิ่งระยะไกลต้องอาศัยสภาพจิตใจที่เข้มแข็งด้วย
ประเภทรองเท้าวิ่งในท้องตลาด สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ..
1. รองเท้าแข่ง Racing shoes รองเท้าแบบนี้ดูได้ไม่ยาก นั้นคือเบาและเบามาก มีส่วน Midsole และบริเวณส้นที่เรียกว่า drop ที่น้อยมาก วัสดุบางเบาเหนียว ผ้าบุภายในแบบนุ่มนิ่มไม่มีหรอกครับ เพราะมันหนัก ใครที่จะใช้รองเท้าประเภทนี้ ต้องระดับมีประสบการณ์ ชอบความเร็วและการแข่งขัน ที่สำคัญราคาแพงมาก (ใส่แล้วมันจะแข็งๆ สากๆ ไม่สบายเหมือนรองเท้าวิงทั่วไปนะ) ตัวอย่างเช่น Mizuno Wave Emperor, Asics Tarther Japan, Asics Tartherzeal 5 Flytefoam
2. แบบที่สองของเรียกว่ารองเท้าวิ่งแบบ Neutral รอเท้าวิ่งกลางๆ ทั่วไป สามารถใส่ฝึกวิ่งและลงแข่งตามสนามทั่วไป เหมาะสำหรับมือใหม่หรือแม้แต่มือเก๋า วิ่งสบายเท้าเพราะมีวัสดุนุ่มนิ่ม โฟมบุภายใน ในส่วน Midsole ก็จะมีโฟมมากกว่ารองเท้าแข่ง แต่หนาไม่มาก ถ้ามีมากไปจะเป็นรองเท้าประเภท Support ละ ตัวอย่างเช่น Mizuno Wave Rider, ASICS FUZEX RUSH, New Balance Vazee Pace และ Fresh Foam Zante v3
3. รองเท้าประเภท Support, stability หรือ Cushion สำหรับคนที่ชอบความหนานุ่มของรองเท้าวิ่ง หรือคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักมากเป็นปกติ รองเท้าประเภทนี้สังเกตได้ง่ายมากนั้นคือ ส่วนของ Midsole จะหนามากๆ และนุ่มสบายเท้า ตัวอย่างเช่น Brooks Glycerin และ Adrenalin GTS, New Balance Fresh Foam Vongo v2, Mizuno Wave Inspire และ WAVE SKY เป็นต้น
ถ้าแนะนำส่วนตัว ผู้เขียนจะให้เลือกใช้รองเท้าแบบ Neutral ทั่วไป แล้วมาพัฒนาเทคนิคท่าวิ่ง วิง่ให้ลงเท้า มีรอบขาที่เหมาะสม เรียนรู้เทคนิคการหายใจและรู้จักฝึกกล้ามเนื้อเล่นเวทให้แข็งแกร่ง เท่านี้ก็วิ่งไปได้ไกล วิ่งได้นานและเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้ดี ส่วนใครที่เท้ามีปัญหาหรือน้ำหนักตัวมากจริงๆ ก็ต้องใช้รองเท้าแบบ Support ละครับ