มีแฟนเป็นนักวิ่งต้องเข้าใจ และนักวิ่งอย่างเราๆ ต้องเข้าใจด้วยว่า ระดับความบ้าเรานั้นเกินปกติคนทั่วไป…บทความนี้ตั้งใจเขียนให้คู่รักนักวิ่ง อยากให้นักวิ่ง และแฟนนักวิ่งลองได้อ่านกันดู เผื่อเป็นแนวทางให้สองคนได้เข้าใจกัน และดำเนินชีวิตคู่ได้ราบรื่น
แสดงตัวตน
อย่างแรกที่แฟนๆ นักวิ่งต้องเข้าใจ การวิ่งคือสิ่งที่เค้ารัก คือ passion คือแรงบันดาลใจ และเขา/เธอจะวิ่ง วิ่งหนักและหนักมากในทุกๆ วัน
การห้ามเขา/เธอ ฝึกซ้อมนั้นเท่ากับปฏิเสธ การไม่ยอมรับในสิ่งที่เขา/เธอเป็น ดังนั้นทางที่ดีคุณต้องยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็น ใครโชคดีมีแฟนเป็นนักวิ่งทั้งคู่ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ คนหนึ่งออกกำลังการแต่อีกคนหนึ่งไม่ คงต้องใช้เวลาและความเข้าใจในการปรับตัวเข้ากันสักพัก
ดังนั้นก่อนตัดสินใจเป็นแฟนหรือรับใครเข้ามาในชีวิต นักวิ่งต้องแสดงตัวตนของตัวเองให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ต้น “This is who I am” ก่อนจะเริ่มดำเนินความสัมพันธ์ต่อไป
ต้องดูดีในสายตาเธอ/เค้า
มีแฟนเป็นนักวิ่ง มีหน้าที่เยอะมากกว่าวิ่งอย่างเดียว คุณต้องทำตัวเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงกระตุ้นให้แฟนคุณรู้สึกอยากออกกำลังด้วย ที่สำคัญไม่ใช่กระตุ้นด้วยการพูด แต่ต้องด้วยการกระทำ
การดูแลร่างกาย อาหารการกิน การฝึก strength training เพื่อทำให้ร่างกายดูเข้ารูปได้สัดส่วน เป็นสิ่งแรกๆ หรือผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ชัดเจน หากคุณมีรูป Before-After ไว้โชว์ หรือเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ชายผู้หญิงเก็บไว้ อย่าลืมเอาให้แฟนคุณดูด้วยละ จะได้เกิดแรงบันดาลใจ (แรงอิจฉา) ในการออกมาวิ่ง
ตารางฝึกคือเรื่องสำคัญ
อย่าปล่อยให้อาการขี้เกียจของเค้า/เธอ เข้ามาเกาะกุมตัวคุณ…ที่รักขา นอนดูทีวีด้วยกันนะ…ไปเดินห้างด้วยกันหน่อย…ไปกินกาแฟกันมั้ย…ให้นักวิ่งอย่างเราปฏิเสธเสียงแข็งเลยครับ ไม่ครับ/ค่ะ วันนี้มีฝึกวิ่ง
เชื่อว่าหลายๆ ครั้งที่แฟนคุณพยายามดึงคุณออกห่างจากการฝึกซ้อม แต่การปฏิบัติตามตารางฝึก เป็นการแสดงถึงความมีระเบียบวินัย (Discipline) และแสดงถึงคุณกำลังทำในสิ่งที่รัก คุณมี passion กับสิ่งนี้ ทำไปสักพักเขา/เธอ กะเริ่มให้ความนับถือในวามพยายามและความมีวินัย หรือ respect คุณ
จำไว้ว่าถ้าแฟนคุณไม่ใช่เป็นคนออกกำลังกาย เมื่อคุณห่างจากการฝึกเท่าไหร คุรก็จะกลายเป็นเหมือนแฟนคุณ ว่ากันว่าถ้าแฟนคุณอ้วนลงพุงอย่างไร เราก็อาจจะเป็นอย่างนั้นด้วย
นักวิ่งเป็นนักกินที่ดี
มีแฟนเป็นนักวิ่ง หมายความว่า เขา/เธอ ก็จะเป็นนักกินที่ดีด้วย อาหารการกินของนักวิ่งจะหลักการอยู่ไมกี่อย่างแต่จะขอแยกออกมาเป็นข้อๆ ให้เข้าใจกัน

- Quality นักวิ่งจะเป็นคนเลือกกินมาก อาหารขนมของกินแบบ Junk Food หรือประเภทที่ผ่าน processed จะไม่แตะเลย หรือนานๆ ที่ครั้ง นิยมอาหารประเภทออร์แกนิค ข้าวกล้อง ขนมปัง whole weed ผักผลไม้ตามฤดู นมและโยเกริ์ต เป็นต้น
- Quantity นอกจากจะเลือกกินแล้วยังควบคุมปริมาณอาหารด้วย หรือตามที่ได้ยินกันบ่อยๆ คือ กินนับแคล (แคลอรี่) ในหนึ่งจากต้องมีปริมาณคาร์โบ โปรตีน ไฟเบอร์เท่านั้นเท่านี้ วันหนึ่งกินได้เท่าไหร ค่า BMR เราเท่าไหร วิ่งใช้แคลไปเท่าไหร ห้ามกินเกินแคลนะ เป้นต้น แฟนนักวิ่งต้องจำไว้เพราะคำว่า “แคล” (แคลอรี่) จะได้ยินบ่อยมาก
- Load หรือจะได้ยินบ่อยๆ ว่า โหลด โหลดคาร์โบและโหลดแป้ง ถ้าแฟนพูดยังงี้หมายความว่า จะมีงานแข่งวิ่งระยะทางไกลในเร็วๆ นี้ เป็นช่วงเวลาที่นักวิ่งจะมีความสุขที่สุด เพราะจะได้กินทุกอย่างขว้างหน้า และจะมีการเน้นอาหารพวกแป้งเป็นพิเศษ ใครที่ชอบทำอาหารหรืออยากชวนออกกินข้านอกบ้าน ช่วงนี้โอกาสดีที่สุด
- Recover เป็นช่วงเวลากินหลังจากจบการแข่งขัน เป้นช่วงพักพื้นร่างกายของนักวิ่ง การรับประทานจะเน้นพวกโปรตีน เพราะจะเอาไปใช้ซ่อมแซ่มกล้ามเนื้อที่เสียหายและสร้างขึ้นมาใหม่ ช่วงนี้พาไปกินสเต้ก ชาบูชาบู อะไรที่เป็นเนื้อๆ จะดีมาก
นักวิ่งเป็น Fashionista
การเป็นนักวิ่งคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าปีหนึ่งต้องซื้อรองเท้ากี่คู่ เสื้อชุดวิ่งอีกกี่ตัว และอย่าคิดว่านักวิ่งจะมีอุปกรณ์แค่ รองเท้าวิ่งกับเสื้อกางเกงเท่านั้น โดยมาตรฐานการแต่งกายนักวิ่งที่ดีแล้ว อุปกรณ์จะประกอบไปด้วย หมวก แว่นตา ผ้า buff เสื้อวิ่ง กางเกงวิ่ง นาฬิกา GPS ปลอกแขนปลอกขา ถุงเท้า รองเท้า racebelt…โอ้ยเหนื่อย ขอหายใจก่อน…และ hydropack ใช้วิ่งระยะไกลเป็นต้น…ลืมบอกไปว่ารองเท้ายังแยกเป็นวิ่ง city run กับวิ่ง trail อีกนะ ในเรื่องของสีสรร ยิ่งสีแสบ สีแรง สีตัดกันยิ่งชอบ โดยเฉพาะนักวิ่งสาวๆ ทั้งหลาย แต่งแรงส์มากจนคุณชิดซ้ายแน่นอน ถ้าไม่เชื่อลองไปที่งานวิ่งดู
นักวิ่งเป็นสัตว์สังคมเฉพาะกลุ่มม๊าก
นักวิ่งจะมีเครือข่ายนักวิ่งอยู่ด้วยกันหลากหลายกลุ่ม กลุ่มวิ่งฟรุ้งฟริ้ง กลุ่มวิ่งซ้อมยามเย็น กลุ่มวิ่งอัลตร้า 100 กิโล พ่วงผสมด้วยกลุ่มฝึกโยคะและกลุ่มฝึกเวท ไม่ว่าพวกเค้าจะอยู่ห่างเป็น 100 โลก็ยังสามารถมาเจอกันได้ วงสนทนาพวกเค้าจะคึกคักเป็นพิเศษเมื่ออยู่บนไลน์หรือเฟสบุ๊ค และยิ่งใกล้งานแข่งหรือหลังงานแข่งยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ
การไปงานแข่งแต่ละครั้ง จำไว้เลยว่ามันคืองานรวมญาติที่ให้บรรยากาศเหมือนงานดนตรี วิ่งมินิมาราธอนคืองาน ป๊อป คอนเสิร์ต วิ่งระยะฮาร์ฟมาราธอนคือร็อคคอนเสริ์ต ส่วนฟูลมาราธอนคืองานดนตรีเพื่อชีวิต นอกจากนี้ยังมีงานวิ่งแบบ Trail หรือวิ่งวิบาก ใหอารมณ์แบบไปงานเพลงอินดี้
นักวิ่งมีความรู้เยอะ
มีแฟนเป็นนักวิ่งนั้นหมายความว่าคุณจะได้ นักโภชนาการ นักกายวิภาคศาสตร์และกายภาพบำบัด เทคโนโลยีกูรู นักเดินทางสำรวจ เป็นต้น พวกเขามีความรู้ความสามารถมาก เรื่องอาหารการกิน รู้แม้กระทั้งกินอะไรแก้อาการอะไร กินอะไรเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เสริมสร้างกล้ามให้ทนให้อึดขึ้น หรือจะเป็น personal trainer ชั้นดี ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต้องการแก้อาการ office syndrome บอกมาเดียวจะแก้ให้ เดินทางไม่ต้องกลัวหลง เรื่องแผนที่ระบบ GPS พวกเขาชำนาญนักแล
เพิ่มเติมอีกนิดคุณอาจจะได้ยินคำศัพทธ์เทคนิคแปลกๆ บ่อยๆ ครั้ง อย่าง Tempo, Interval, Hamstrings, Pace, DNF ซึ่งแรกๆ อาจจะงงบ้างแต่อยู่กันนานเข้าก็จะเข้าใจไปเอง
ไปวิ่งกันมั้ย
คำถามนี้ถือเป็นคำอันตราย ไม่ควรถามพร่ำเพรื่อ เพราะ…
- ถ้าคุณไม่เคยวิ่งมากก่อน คุณจะถูกจัดลงคอร์สฝึกวิ่ง มีตารางเวลา มีการควบคุมอาหารการกิน และจะฝึกหนักขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณรับได้มั้ย ถ้าได้..กำกระเป๋าสตังค์ให้แน่น เดียวเราจะไป Shopping กัน เริ่มจากรองเท้า เสื้อกางเกง และจบลงที่อุปกรณ์วิ่งสักชิ้นของคุณแฟน เสียตังค์แน่นนอนครับ
- กรณีที่สกิลการวิ่งของคุณอยู่ต่างจากแฟน จะสูงหรือต่ำกว่าก็ได้ คุณกับเค้าจะวิ่งจ๊อกกิ้งคู่กัน ดูน่ารักกระหนุงกระหนิงไปสัก 2-3 กิโลเมตร จากนั้นทางใครทางมัน เขา/เธอ จะเริ่มเดินเครื่องปรับความเร็วในระดับที่คุณตามทัน หรือไม่ทันก็ได้ และเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจควรพูดว่า “ไปก่อนเลย” “ไม่ต้องรอ” จบการวิ่งแล้วค่อยเจอกัน อย่าพยายามฝืนวิ่งตามหรือให้เค้าวิ่งช้าๆ ด้วยเด็ดขาด เพราะเขา/เธอ ไม่ได้ฝึกอย่างเติมที่ เผลอๆ จะโดนบ่นตอนใส่ตอนจบ ไม่รู้สึกสนุกเวลาวิ่งด้วยกันทุกครั้ง
อย่าลืมว่าเวลาวิ่งนั้น สมองของนักวิ่งจะเปิดโหมดสั่งการให้อยู่ในโลกการวิ่งของเขา/เธอ รักษาฟอร์ม รักษาจังหวะหายใจ จังหวะขา การลงขา พวกเค้าจะมีสมาธิสูงมาก ไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง
- กรณีที่สกิลเท่าๆ กัน มันคือการ Challenge ชัดๆ รอบนี้ไม่มีการออมความเร็ว วิ่งไกลแค่ไหน ที่ไหนบอกมา อุปกรณ์พร้อมแล้วลุยกัน รับรองว่าวิ่งกันไส้แตกแน่นๆ
นักวิ่งมีความลับเยอะ
เค้าไม่บอกคุณหรอกว่าที่แท้จริงแล้ว…
- วิ่งไม่อาจทำให้คุณน้ำหนักลดลง การวิ่งอย่างเดียวไม่อาจทำให้น้ำหนักคุณลดลง ต้องมีการฝึกกล้ามเนื้อ เลือกกินและควบคุมอาหาร จึงจะลดน้ำหนักได้
- ถ้าวิ่งแล้วน้ำหนักลด เตรียมตัวซื้อเสื้อผ้าชิ้นใหม่ได้เลย
- วิ่งนั้นจ่ายเยอะกว่าที่คุณคิด ถ้าคิดว่าแค่รองเท้าคู่เดียว คิดผิดเลยนะ เพราะเดียวคุณต้องมีอุปกรณ์เสริม Accessories มากมายที่รอให้เสียตังค์อีกเยอะ ออกงานวิ่งแต่ละทีไหนจะค่าวิ่ง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง เรื่องวิ่งเรื่องง่ายจริงๆ ครับ
- สำหรับผู้หญิง ไซด์น้ำอกอาจจะลดลงเพราะไขมันถูกดึงไปใช้
- คุณอาจจะเริ่มวิ่ง 3k-5k กับเขา/เธอ จากนั้นอาจจะไปถึง half, Full จนถึง ultra โดยไม่รู้ตัว อย่าหลวมตัวลงมาวิ่งกับแฟนคุณเด็ดขาด
- คุณคิดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งจะต้องได้ใส่เสื้อกางเกงแบบรัดรูปแนบเนื้อ