เช็คลิสต์ 9 ข้อก่อนซื้อจักรยานมือสอง
การซื้อจักรยานก็เหมือนกับการขับรถ โปรดตั้งสติที่ครั้งก่อนซื้อ….เมื่อเวลาคุณมองหารถจักรยานมือสองคันสวยๆ เอาไว้ใช้จ่ายตลาด ใช้ในเดินทางไปทำงานหรือจะใช้ออกกำลังกาย จำไว้ว่ารถมือสองไม่มีทางสวยสด สภาพพร้อมใช้ 100 เปอร์เซนต์เหมือนรถใหม่ แต่มันสามารถทำงาน ใช้ปั่นไปมาตามวัตถุระสงค์เราได้สบายๆ เว้นแต่คุณจะเอาไปตลุยขึ้นเขาลงห้วย อย่างนี้มันเกินสมรรถภาพแน่นอน
อีกข้อหนึ่งที่ควรพึ่งระลึกไว้ในใจ จักรยานมือสองจำเป็นต้องรักการดูแลรักษา อาจจะต้องซ่อมแซมนิดหน่อยก่อนใช้งานหรือระยะบำรุงรักษาจะถี่กว่ารถมือใหม่ แต่โชคดีที่ว่าค่าบำรุงรักษานั้นถูกไม่ถึงกับทำให้ขนหน้าแข้งร่วงหรอกครับ
เรามาดู 9 ข้อที่ควรรู้ก่อนซื้อจักรยานมือสองกัน…
1. ระบุประเภทจักรยานให้ตรงกับการใช้งานของคุณ ยิ่งเน้นการใช้งานอย่างออกกำลังกายมากขึ้นเท่าไหร มันจะมีผลต่อราคาซื้อขาย ถ้าเป็นใช้จ่ายตลาดอย่าง Hybrid bike ที่ใช้เดินทางทั่วไปราคาจะถูกลงมาหน่อย แต่ถ้าเพื่อการออกกำลังกายอย่าง road bike หรือ mountain bike จะอยู่ในประเภท racing bike ราคาจะสูงขึ้นมา
2. เช็คไซด์จักรยาน แม้รถจะราคาถูกมากแค่ไหรก็ตามแต่ถ้าขนาดไม่เหมาะกับรูปร่างเราก็ไร้ประโยชน์ ใช้ไปก็เจ็บตัวเปล่า
เรามาดูตารางไซด์ระหว่าส่วนสูงกับขนาดจักรยานกัน…
3. เช็คความเสียหายบนเฟรมจักรยาน สังเกตรอยขูดขีดและรอยบุ๋ม โดยเจ้ารอยขูดขีดส่วนมากจะเสียหายแค่สีเคลือบภายนอกเท่านั้น ยิ่งในเสือภูเขาจะมีรอยเยอะหน่อย หลีกเลี่ยงซื้อรถที่มีรอยร้าว เพราะโครงสร้างหลักของเฟรมมีการเสียหายแล้ว ยิ่งพวกคาร์บอนเฟรมยิ่งแล้วใหญ่ ห้ามซื้อเด็ดขาด
ในจักรยานที่ทำสีใหม่ต้องดูให้ดีๆ รวมทั้งตัวที่ขึ้นสนิมด้วย ถ้าขึ้นแค่เปลือกนอกสามารถขูดกระเทาะออกได้แต่ถ้ากินถึงเนื้อใน ห้ามซื้อเช่นกัน
4. ยางและล้อ ยางและล้อสามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้ราคาไม่แพง แต่ล้อจะมีราคาขึ้นมานิด ฉะนั้นให้ดูที่ล้อเป็นหลักก่อน ยางในยางนอกสามารถเปลี่ยนได้ง่าย เวลาเลือกให้จับยางดูว่ามีความยืดหยุ่นมั้ย หรือว่าแตกเป็นขุ่ยๆ แล้ว ยังติดอยู่กับล้อดีมั้ย ดอกยางเหลือมากน้อยเท่าไหร
ในส่วนของล้อให้ดูว่าซี่ล้ออยู่ครอบมั้ย แต่ละซี่ล้อยังตึงเท่ากันมั้ย ขอบล้อมีรอยขีดข่วนเยอะมากมั้ย ถ้ามีรอยร้าว รอยขูดเข้าไปลึกๆ หรือบุ๋มเข้าไปให้กดราคาขายได้เลย แล้วค่อยซื้อเปลี่ยนใหม่
5. เบรค ตัวผ้าเบรคนั้นราคาถูกเปลี่ยนได้ง่าย แต่ต้องดูว่าตัวกลไกยังทำงานได้ดีหรือมั้ย ดูตั้งแต่ที่เบรคมือ สายเคเบิล ตัวเบรค ดูว่ามีสนิมมากน้อยขนาดไหน ถ้ามากเปลี่ยนตัวใหม่ดีกว่า ทดลองกำเบรคแล้วติดขัดมั้ย ถ้าติดขัดลองดูที่สายเคเบิลว่าขาดหรือติดสนิม หรือติดที่กลไกเบรคมือ อย่าลืมเซตปรับจูงเบรคใหม่ด้วยหลังจากซื้อมา
6. ชุดเกียร์ อย่างแรกคือดูที่เฟื่องหลัง ทดลองเปลี่ยนเกี่ยร์ไปมาดูว่ายังใช้งานได้หรือไม สลับการการขึ้นเกียร์หน้าใหญ่ดู ติดขัดหรือไม โซ่ไม่ควรจะติดขัดหรือหลุดจากฟันเฟื่อง การเปลี่ยเกียร์ก็คงไม่มีเสียงดังมาก ค่อนข้างไหลเลื่อน ถ้ามีโคลนหรือสิ่งสกปรกติดจะเปลี่ยนเกียร์ยากหน่อย จำเป็นต้องทำความสะอาด
ถ้าซี่เฟื่องสึกมากหรือมีสนิมให้ซื้อเปลี่ยนใหม่ แต่ชุดเกียร์ราคาแพงหน่อยนะครับ
7. ส่วนที่หละหลวม ทดลองปั่นดู แล้วฟังเสียงหรือใช้ความรู้สึกเอาว่า เบาะนั่ง ปันไดปั่น แฮนด์จับและส่วนกระโหลก ยังอยู่แน่นมั้ย หรือหลวมมีเสียงออกมา ถ้ามีอาการหลวมแสดงว่าจักรยานมีปัญหาควรหลีกเลี่ยง
8. ทดลองปั่น ถ้าทางร้านอนุญาตให้ทดลองปั่นก็ควรลองดู เวลาปั่นให้ดูว่าเบรคใช้งานได้มั้ย การเปลี่ยนเกียร์ขณะปั่น ส่วนที่มีอาการหลวมแสดงออกมาหรือมั้ย จักรยานควรพุ่งไปข้างหน้าอย่างนิ่งๆ ไม่ควรมีการกระตุกเป็นระยะ
9. Double check เมื่อซื้อมาแล้วให้นำไปร้านจักรยานที่ใกล้บ้าน ให้ช่างดูรายละเอียดว่ามีส่วนที่ต้องซ่อมเพิ่มเติมมั้ย ทำการบำรุงรักษาเบื้องต้นด้วย ตั้งแต่การเปลี่ยนยาง จูนเบรคจูนเกียร์ ทำความสะอาดชุดขับเคลื่อนและขันส่วนน็อตใหม่
อย่าลืมว่าเวลาซื้อจักรยานมือสองต้องเตรียมเงินไว้ในส่วนที่ต้องซ่อมแซมด้วย….Enjoy your ride!