รู้หรือไม่! วิ่งเเข่งสนามจริง สามารถพัฒนาเราเป็นนักวิ่งที่ดีได้ (competitor runner)
หลายๆ คนมีจุดมุ่งหมายในการวิ่งเเตกต่างกันไป บางคนวิ่งเพื่อสุขภาพ เพื่อลดน้ำหนัก หรือบางคนวิ่งเพื่อหาเเรงบันดาลใจให้กับตัวเอง เเต่เมื่อผ่านการวิ่งมาสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าหลายๆ คนเริ่มมีความต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น เริ่มมองหาความท้าทายใหม่ๆ ทำอย่างไรให้วิ่งได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น ต้องการเป็นนักวิ่งในกลุ่ม Elite Runner หรือจะเป็นนักวิ่งเเนวหน้าในรุ่นกลุ่มอายุ (Age group) ตามคำนิยามเหล่านี้กล่าวได้ว่า คุณต้องการเป็น competitor runner
หนึงในวิธีฝึกให้กลายเป็นนักวิ่งที่ดี มีความสามารถและเทคนิคที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือการซ้อมวิ่งทุกเช้าเย็นด้วยตัวเอง คือการลงเเข่งสนามจริง
ยิ่งเเข่งมาก ยิ่งสะสมประสบการณ์ได้มาก การตัดสินใจเเก้ปัญหาล่วงหน้า หรือการรับมือกับปัญหาที่เกิดจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เเต่ นั้นไม้ได้หมายความว่าคุณจะต้อง สมัครลงเเข่งทุกๆ สนามเลยนะ
ใช้สนามเล็กเพื่อการทดลอง
หลายๆ คนนิยมใช้การลงสมัครวิ่งระยะ มินิมาราธอน หรือ ฮาฟมาราธอน หาจังหวะการวิ่งเเพื่อเเข่งขันของตนเอง หรือ หา race pace ซึ่งต่างจาก pace ที่ใช้วิ่งฝึกซ้อม ให้ไม่รู้สึกว่าช้าหรือเร็วไป บางก็ทดลองความอึด (Stamina) ของตัวเองเวลาวิ่งเเข่งจะสามารถยืนได้ครอบระยะมั้ย หรือเเม้เเต่ทดลองการจัดการเวลาในการดื่มน้ำ กินอาหารเพื่อ refuel
การใช้สนามเล็กเพื่อการทดลอง เป็นเทคนิคที่คลาสิกใช้กันในหมู่นักวิ่ง ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การลงวิ่งระยะ 10k ก่อนเพื่อสรา้งความคุ้นชินให้กล้ามเนื้อ สร้างความอึดเเละค่อยๆ ขยับไป 21k จนถึงการวิ่งเเข่งระดับ 42.195k (Full marathon)
ผสมผสานสนามเเข่ง
อย่าลงวิ่งเเข่งระยะเดิมๆ ซ้ำไปมา เดียวจะทำให้คุณเบื่อได้ง่าย หรือประสิทธิภาพการวิ่งอาจจะลดลง ลองผสมผสานระยะทางใกล้ไกลดูบ้าง หรือจะลองลงวิ่งสนามเทรลดูก็ได้นะ
การลงวิ่งเเข่งในเเต่ระยะทางจะทำให้คุณได้เรียนรู้เทคนิคที่เหมาะกับการวิ่งระยะนั้นๆ อย่างเช่น สนามสั้น 5-10 กิโลเมตร ดีต่อการสร้างเทคนิดการวิ่งเร็ว วิธีการสับขา การสวิงขา การลงเท้า ฟอร์มท่าวิ่ง เเต่ในขณะเดียวกัน การวิ่งระยะทางไกล 20 กิโลเมตรเป็นต้นไป จะดีต่อการวางเเผนวิ่งเเข่ง (tactic) วิธีเตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์ ช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งของจิตใจ ฝึกความอดทน
การฝึกวิ่งเทรล ควรใส่ไว้ในเเผนการฝึกว้อมของคุณเช่นกัน เพราะการวิ่งเทรล (trail running) จะมีพื้นถนนขรุขระ มีเนิน มีไต่เขา ซึ่งจะให้โอกาสคุณได้ฝึกกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้มากกว่าการวิ่งวิ่ง city run ที่เป็นเเนวราบอย่างเดียว
ต่อสู้กับอุปทานหมู่
ครั้งเเรกที่ลงสนามวิ่ง Full marathon มันเหมือนกับการไปงาน ร็อคคอนเสิร์ต พลังงานในตัวคุณเเทบจะระเบิดออกมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงปล่อยตัว เราจะออกวิ่งตามคนอื่นอย่างเร็ว วิ่ง pace เร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ จนทำให้มีอาการบาดเจ็บ เเรงหมด วิ่งไม่จบเเละ DNF ในที่สุด
การออกสนามวิ่งจริงๆ บ่อยๆ จะช่วยให้คุณควบคุมอาการตื่นเต้น อาการตื่นสนาม ฝึกควบคุมอารมณ์และจิตตัวเองให้นิ่ง ไม่ไหลไปตามกระเเสได้
เพื่อการเป็นนักวิ่งที่ดี หรือ competitor runner เราก็ควรออกวิ่งหาประสบการณ์กับสนามจริงบ้าง ไล่จากระยะสั้นไปยาว เเต่ห้ามหักโหมนะครับ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สำหรับใครที่วิ่งฟูลมาราธอนอยู่เเล้ว ลองปรับเปลี่ยนไปวิ่งเทรล วิ่งสนามเล็กเพื่อฝกความเร็วเพิ่มก็ได้ ผสมผสานการฝึกซ้อมการเเข่งขัน เพื่อสร้างเเรงบันดาลใจใหม่ๆ ดู
Discussion about this post