ถ้าคิดว่าการดื่มน้ำไม่สำคัญ ก็ควรคิดดูใหม่ เพราะ เพียงสูญเสียน้ำในร่างกายไป 2% ระดับพลังงานก็จะลดลงถึง 12% ระหว่างการปั่นฝึกซ้อม เราควรดื่มน้ำอย่างน้อย 800 ML ทุกๆ 1 ชั่วโมง และก่อนออกปั่นทุกครั้งก็ควรดื่มน้ำไว้ก่อน 800-1600 ML เหมือนกับการเติมน้ำมันเต็มถังไว้ก่อน
CYCLING TIPS: คำแนะการดื่มน้ำสำหรับนักปั่นจักรยาน
- นักปั่นควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ยิ่งเราเป็นคน Active มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องการน้ำเพื่อช่วยรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย
- อย่ารอจนรู้สึกหิวน้ำแล้วค่อยดื่ม เมื่อเรารู้สึกหิวน้ำ นั้นหมายความว่าร่างกายเราสูญเสียน้ำไปแล้ว เทียบได้ประมาณ 2-3 แก้ว หรือมากกว่า
- กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้ทนแทนน้ำไม่ได้ เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ปัสสาวะมากขึ้น นั้นทำให้เราขาดน้ำมากขึ้น
- เมื่อเริ่มออกกำลังกาย ควรมีการจิบน้ำเป็นระยะๆ พกกระติกน้ำติดตัวไว้เสมอ และจิบน้ำเป็นระยะๆ
- ปริมาณเหงื่อที่สูญเสีย มีผลต่อปริมาณน้ำในร่างกายมาก การสูญเสียน้ำ 400-500 กรัม ต้องดื่มน้ำชดเชยประมาณ 2 แก้ว
- เริ่มและจบด้วยการดื่มน้ำ เพื่อรักษาน้ำในร่างกายให้คงที่มากที่สุด นักปั่นควรดื่มน้ำก่อน ระหว่างและหลังการปั่นเสมอ
ร่างกายนักปั่นจักรยานสูญเสียน้ำแม้ในเวลาที่นอนหลับพักผ่อน ดังนั้นก็ควรปฏิบัติตามการฝึกปั่น ควรมีการดื่มก่อนนอนและอีกครั้งเมื่อตื่นนอน
การดื่มน้ำเย็น (ไม่ใช่เครื่องดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มเกลือแร่) ช่วยรักษาระดับน้ำร่างกายได้เช่นกัน ให้ความเย็นสดชื่น และช่วยลดอุณหภูมิร่างกายลงได้ เราแนะนำให้แช่แข็งกระติกน้ำไว้ขวดหนึ่ง พอปั่นไปได้สักระยะ น้ำแข็งจะละลายขณะทีน้ำก็ยังมีความเย็นสดชื่นเวลาดื่ม
แหล่งน้ำอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำเปล่า ได้แก่ นม ชา น้ำผลไม้ 100% และน้ำผักผลไม้ปั่น แต่การใช้น้ำซุป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนผสม ไม่แนะนำ เพราะมีปริมาณโซเดียมสูง และไปขัดขว้างร่างกายในการดูดซับน้ำ
ในแผนการฝึกที่กินเวลานาน (2-3 ชั่วโมง) เราจะสูญเสียปริมาณเหงื่อเป็นจำนวนมาก และจะออกมาพร้อมกับปริมาณเกลือในร่างกายด้วย ดังนั้นนอกจากจะดื่มน้ำเติมกลับไปแล้ว ก็ควรมีการผสมเครื่องดื่มอิเล็กโตรไลท์ในน้ำด้วย เพื่อเติมเกลือแร่กลับไปด้วย