ถ้าพูดถึงจังหวัดตาก หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นจังหวัดที่ไกล อยู่ติดชายแดนฝั่งตะวันตก เดินทางลำบาก ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ แต่จริงๆ แล้วจังหวัดตากห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 400 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น และยังเป็นถนน 4-6 เลนตลอดทั้งสาย ซึ่งเส้นทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินนั่นเอง ยังเป็นเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางไปยังเชียงใหม่อีกด้วย
สำหรับการเดินทางของเรามุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ ไปถึงที่พักใกล้กับเขื่อนภูมิพลช่วงเย็นๆ เพื่อพักผ่อนเอาแรงที่จะเดินทางต่อพรุ่งนี้ โดยมีแผนจะไปที่ อ.แม่สอด โอกาสนี้เรายังได้ไปชมบริเวณเขื่อนภูมิพล โดยตั้งอยู่ที่ อ.สามเงา ห่างจากตัวเมืองตากไปประมาณ 60 กม. ซึ่งถือเป็นเขื่อนที่มีความสำคัญทั้งในด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับหลายจังหวัด และกักเก็บน้ำสำหรับการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง นอกจากตัวเขื่อนภูมิพลแล้ว ยังมีเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง มีสะพานปิงพิพรรธน์ที่ข้ามไปยังสนามกอล์ฟเขื่อนภูมิพล ถือว่าเป็นสะพานที่ดูสวยงาม มีวิวภูเขาด้านหลังแปลกตาไม่เหมือนใคร ในเวลากลางวันจะเห็นโครงสะพานเหล็กสีส้มโดดเด่น แต่ถ้ามาตอนกลางคืนจะมีไฟ LED ประดับสวยงามมาก เรียกได้ว่าจะไปถ่ายรูปตอนกลางวันหรือกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน
Unseen Tak มุ่งหน้าสู่แม่สอด แวะแรกที่ห้วยทู่
ในเส้นทางที่เราไปแม่สอดนั้น เราวางแผนไว้ว่าจะเดินทางผ่าน อ.บ้านตาก แต่เดี๋ยวเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง แต่จุดหมายแรกของเราคือดอยห้วยทู่ ซึ่งเป็นดอยที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร แต่ที่เราไปแวะเยี่ยมชมคือหมู่บ้านทางขึ้นดอยห้วยทู่ ซึ่งมีความสูงประมาณ 800 เมตร จากข้อมูลที่ได้รับ ชาวบ้านจะทำการเกษตรเป็นหลัก อย่างเช่นปลูกข้าวโพด กาแฟ อโวคาโด ส่วนทางขึ้นสู่ดอยห้วยทู่ก็ไม่ถือว่าลำบากมากนัก รถกะบะสามารถพาขึ้นไปได้เลย ส่วนดอยห้วยทู่ต้องเดินเท้าต่อไปอีก
ด้วยเวลาที่เร่งรีบ และอุปกรณ์ในการเดินทางไม่พร้อม สภาพอากาศฝนตก มีลมแรง จึงไม่มีโอกาสได้เดินขึ้นดอยห้วยทู่ ซึ่งต้องเดินอีกประมาณ 8 กม. อีกทั้งสภาพอากาศไม่เป็นใจ จึงทำได้แค่พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ประจวบเหมาะกับทางหมู่บ้านซึ่งเป็นชาวลีซอกำลังทำอาหารต้อนรับเทศกาลสารทจีนของ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้เชิญชวนให้เราร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านสำหรับอาหารกลางวัน และให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี
ภาพจากเพจดอยห้วยทู่บ้านลีชอ ตำบลทุ่งกระเชาะ อำเภอ บ้านตาก จังหวัด ตาก
อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ
จากทางขึ้นดอยห้วยทู่ เดินทางบนถนนสาย 1175 ไปอีกประมาณ 50 กม. ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ซึ่งตั้งอยู่ ต.สามหมื่น อ.แม่ระมาด มีอากาศเย็นสบาย แต่ในช่วงที่เราไปเป็นฤดูฝน ทำให้มีฝนตกเกือบตลอดทั้งวัน และยังมีหมอกปกคลุมเกือบตลอดเวลาเช่นกัน อุทยานแห่งชาติขุนพะวอมีบ้านพักให้บริการ และยังมีลานกางเต็นท์ค่อนข้างกว้าง เงียบสงบ ห่างไกลจากหมู่บ้าน แหล่งชุมชน เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชมบรรยากาศป่าเขาสบายๆ เป็นที่สุด หากมาช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือในฤดูหนาว น่าจะช่วยเติมพลังชีวิตให้ได้มากทีเดียว
Wisdom Field
จากอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ เราเดินทางต่ออีกเพียง 22 กม. จุดหมายของเราคือร้านกาแฟ Wisdom Field ที่มีอาคาร สถาปัตยกรรม และสถานที่ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ลงตัว ตั้งอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจีในช่วงหน้าฝน ตั้งอยู่ที่ ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด อยู่ติดถนนใหญ่ บรรยากาศสบายๆ มี 2 ชั้น เหมาะกับการนั่งดื่มกาแฟ กินขนมชิลๆ ชมทิวทัศน์รอบๆ และที่อาคารติดๆ กันเป็นร้านอาหาร Wisdom Reataufield ที่เพิ่งเปิดใหม่ ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์เดียวกัน ซึ่งเป็นร้านที่รองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามารับประทานอาหาร มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor ให้ได้เสพบรรยากาศทิวเขาและท้องนาเขียวขนีได้เต็มที่ และด้านหน้าทางเข้ายังมีจุดถ่ายรูปเป็นอาคารโกดังเก่าที่เหลือแต่กำแพง ซึ่งทางร้านก็ได้ทำการตกแต่งด้วยการพ่นสีรูปอาร์ตๆ เหมาะกับการถ่ายรูปฮิปเตอร์อวดบนโซเชียล
ออนเซ็น อโรคยาศาล โป่งคำราม
หลังจากเดินทางนั่งรถมาทั้งวัน หากต้องการผ่อนคลายแบบขั้นสุด ขอแนะนำมาแช่น้ำร้อนที่นี่เลย ออนเซ็น อโรคยาศาล โป่งคำราม ตั้งอยู่ที่ ต.แม่ภาษา อ.แม่สอด มีอ่างให้แช่น้ำร้อนออนเซ็นให้บริการแบบฟรีๆ แต่มีตู้รับเงินช่วยสนับสนุนบำรุงสถานที่ให้บริจาคตามกำลังทรัพย์ ส่วนที่ให้บริการแช่น้ำร้อนแยกเป็นสัดส่วนชายหญิง มีห้องบริการเปลี่ยนเสื้อผ้า และสามารถลงแช่น้ำร้อนได้เลย อ่างน้ำร้อนทำมาจากไม้โอ๊คสั่งตรงจากประเทศจีน แต่ก่อนจะใช้บริการควรอ่านคำแนะนำให้ละเอียด เพราะการแช่น้ำร้อนนานๆ อาจจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ สำหรับอ่างแช่น้ำแร่ออนเซ็นถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ พักสายตาด้วยวิวทุ่งนาเขียวขจี นอนแช่น้ำแร่อุ่นๆ สบายตัวจนอยากหยุดเวลาไว้ให้แช่ได้นานๆ เลยล่ะ และสำหรับท่านที่ไม่สะดวกที่จะอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน ก็มีส่วนของการแช่น้ำแร่เฉพาะเท้าด้วยเช่นกัน หย่อนเท้าลงไปแช่แค่พักเดียวก็รู้สึกสบาย เลือดลมไหลเวียนจนรู้สึกได้ จะเข้ามาใช้บริการหน้าฝน หน้าหนาวก็เปิดให้บริการตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟให้บริการด้วย
ดอยสอยมาลัย
ที่สุดของ Unseen จังหวัดตาก ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหลังคาของจังหวัดตาก ซึ่งถ้ามาตากแล้วห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ยอดดอยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 เมตร สามารถมองเห็นเขื่อนภูมิพลได้ด้วย แต่สำหรับการเดินทางในทริปนี้เรามาในช่วงหน้าฝน เส้นทางขึ้นดอยสอยมาลัยไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้ จึงต้องขออนุญาตจากหัวหน้าอุทยานเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น พร้อมกับฟังสรุปเส้นทางจากหัวหน้าที่เราจะเดินทางในวันนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ช่วยนำรถ 4WD ที่ถึงแม้ว่าจะใส่โซ่ที่ล้อตะลุยพาเราขึ้นไปแล้ว แต่ก็ติดหล่มจากดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ไปได้เพียง 300 เมตรเท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากไปให้ถึง เราจึงเดินเท้าต่อไปอีก 600 เมตร ด้วยเส้นทางที่ยากลำบาก และไม่พร้อมในหลายๆ ส่วน เราจึงขอกลับไปตั้งตัว และพร้อมจะมาลุยใหม่ในช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้ แล้วพบกัน ดอยสอยมาลัย
นอกจากดอยสอยมาลัยที่ถือเป็นที่สุดของจังหวัดตากแล้ว ยังมีเจ้าตัว “กระท่าง” หรือซาลาแมนเดอร์ หรือจิ้งจกน้ำ ที่จะอาศัยอยู่ที่ดอยสอยมาลัยเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นป่าที่สมบูรณ์ ไม่มีมลพิษ ซาลาแมนเดอร์จึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
ขอขอบคุณภาพ “กระท่าง” จากหัวหน้าอุทยานรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น
กาดต้าตง
หลังจากบุกป่าฝ่าดงลงจากเขาเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเดินทางกลับ จากที่เกริ่นไว้ตอนแรกคือเราจะเดินทางกลับผ่านทาง อ.บ้านตาก ซึ่งจะมีถนนคนเดินที่พึ่งจะเปิดใหม่คือ กาดต้าตง แปลความหมายได้ว่า กาด คือตลาด ต้า คือแม่น้ำ ตงคือ ตรง หมายความรวมว่าตลาดแม่น้ำตรง ที่มีความหมายแบบนั้นคือบริเวณนั้นแม่น้ำปิงจะมีช่วงแม่น้ำที่ค่อนข้างตรง ไม่คดเคี้ยวเหมือนกับส่วนอื่นๆ กาดต้าตงตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง มีสะพานไม้ไผ่จากศาลาวังปลาเชื่อมต่อกับเกาะกลางน้ำ เหมาะที่จะไปเดินถ่ายรูปอย่างมาก ได้วิวแม่น้ำ และภูเขาที่อยู่ด้านหลัง หาไม่ได้จากตลาดถนนคนเดินจากที่อื่น จากที่เราไปเดินยังไม่มีร้านรวงเปิดมากนัก เพราะเป็นฤดูฝน และวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกตลอดทั้งวัน แต่หากเป็นฤดูอื่นจะมีร้านค้า ร้านอาหารมาเปิดให้บริการเต็มถนน เราจึงเก็บภาพบรรยากาศแบบเหงาๆ มาฝาก
บ้านวนาสิน
บ้านวนาสิน เป็นรีสอร์ทเรือนไม้สักทองสุดหรู ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดตาก ห่างจากถนนพหลโยธินเพียงแค่ 300 เมตร เข้ามาถึง ได้เจอบ้านทรงไทยทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง มีเสาไม้สักมากกว่า 300 ต้น เรือนไม้ทั้งหมด 3 เรือน ซึ่งจะมีราคาที่พักแตกต่างกันไป แต่ละห้องแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน มีระเบียงห้องสำหรับพักผ่อน มีความเป็นส่วนตัว รอบๆตกแต่งด้วยน้ำตกสวยงาม ให้แขกที่เข้ามาพักได้เดินชมฟังเสียงน้ำตกแบบสบายๆ เปรียบเสมือนอยู่ในป่าเขา บรรยากาศร่มรื่น ในบ้านวนาสินยังมีคอฟฟี่ช็อป และส่วนรับประมานอาหาร ที่ตกแต่งด้วยน้ำตกรอบด้าน ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหารได้อย่างดี
สรุปเส้นทางที่ใช้ จากเขื่อนภูมิพล – อ.แม่สอด