ได้เวลาสำหรับทุกคนที่รอคอยอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายรุ่นใหม่จาก Garmin ตอนนี้ทาง esri (ประเทศไทย) ได้นำเอา 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนรักสุขภาพและเล่นกีฬาเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว มีทั้งสำหรับกลุ่มคนสนใจดูข้อมูลการออกกำลังกายรายวัน ไปจนถึงกลุ่มคนที่เล่นกีฬาหนักๆ ระดับ Triathlon กันเลยทีเดียว
Vivofit 2
สานต่อความสำเร็จจากรุ่นแรกกับ Activity Tracker ที่เก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของจำนวนก้าวเดิน, การเผาผลาญแคลลอรี่ในแต่ระวัน, ระยะทางที่เดินในแต่ละวัน รวมถึงระยะเวลาและคุณภาพในการนอนของเรา รวมถึงแบตเตอรี่ที่ยังคงใช้แบบถ่านกระดุม 2 ก้อนใช้ต่อเนื่องยาวๆ ได้นาน 1 ปี
ใน Vivofit 2 นั้นมองผ่านๆ รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับรุ่นแรก แต่จริงๆ แล้วมีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นหลายอย่างทั้งภายนอกและภายใน เริ่มด้วยตัวสายนั้นที่ตัวล็อคจะสามารถหมุนเพื่อป้องกันการหลุดได้ (ในรุ่นแรกต้องยอมรับว่ามันหลุดง่ายมากถึงขนาดที่ Garmin ต้องออกสายล็อคมาแถมให้เพื่อแก้ปัญหา) ตัวสายยังมีสีสันและลวดลายให้ซื้อเปลี่ยนได้มากกว่าเดิม แถมยังมีสายแบบโลหะ, สายหนัง, ประดับคริสตัล เอาไว้เปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับเครื่องแต่งกายและแฟชั่นอีกด้วย
ส่วนภายในที่มีการเปลี่ยนแปลง ได้มีการเพิ่มไฟ backlit ช่วยให้สามารถดูข้อมูลในเวลากลางคืนได้ (ไฟจะสว่างตอนที่กดปุ่มแป๊บนึง เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน) ส่วนระบบการเตือนให้เคลื่อนไหวทุก 1 ชั่วโมงที่เป็นแบบแถบสีแดงที่หน้าปัด ตอนนี้มีเพิ่มเป็นเสียงเตือนแจ้งให้เราทราบได้ และมีเพิ่มการกดจับเวลาเพื่อบันทึกกิจกรรมหรือช่วงเวลาที่ออกกำลังกายได้ด้วย
ราคาจำหน่ายของ Vivofit 2 อยู่ที่ 4,750 บาท
vívoactive
อุปกรณ์ประเภท Smart Watch ตัวแรกจาก Garmin ที่เป็นรูปแบบของนาฬิกาหน้าจอสีสัมผัส ที่โดดเด่นเรื่องความคมชัดเวลามองในที่แดดจ้า ตัวของ vívoactive จะมี GPS ในตัวรองรับการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและเล่นกีฬาได้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นวิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ และตีกอล์ฟ และยังมีฟังก์ชันของ Activity Tracker เหมือนกับใน vívofit ติดตั้งมาด้วย
นอกจากนี้ Vivoactive ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้แจ้งเตือนสายโทรเข้า, ข้อความต่างๆ และอีเมล์ได้ ตัวเครื่องกันน้ำและแบตเตอรี่สามารถใช้งานในโหมดนาฬิกาได้นานถึง 3 สัปดาห์โดยไม่ต้องชาร์จ
และ Vivoactive ยังสามารถทำงานคู่กับ Heart Rate Monitor แบบสายคาดอกของ Garmin เพื่อเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในเวลาออกกำลังกาย
ราคาจำหน่ายของ Vivoactive อยู่ที่ 9,700 บาท
Fenix 3
นาฬิกาสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งรุ่นที่ 3 ของตระกูล Fenix ที่ถือว่าเป็นรุ่นยอดนิยมสุดของ Garmin มีการปรับโฉมในด้านของดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัย สวยงาม และสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน และเข้ากับแฟชั่น
ตัวนาฬิกาในด้านการเก็บข้อมูลการเล่นกีฬามีครบทั้งวิ่ง, ว่ายน้ำ และปั่นจักรยาน และมีระบบ GPS สำหรับใช้นำทางในเส้นทางที่แม่นยำ รวมถึงยังมีคุณสมบัติโหมดการฝึกฝนด้านฟิตเนสที่ทันสมัย เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาที่ครบเครื่องสำหรับคนชอบเล่นกีฬาอย่างแท้จริง
และที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว้าวกับ Fenix 3 มายิ่งขึ้น ตั้งแต่ตัวเรือนที่ออกแบบมาดูเป็นนาฬิกาที่สวยงาม หน้าปัดเป็นแบบสี และนอกจากนี้ยังมีรุ่น Sapphire ที่ตัวเรือนจะใช้วัสดุประกอบระดับพรีเมี่ยม กระจกใช้วัสดุเป็นแซฟไฟร์ และสายเป็นสแตนเลสสตีล ดูหรูหราสวยงามมาก
Fenix 3 มีเซนเซอร์สำหรับวัดระดับความสูง, ความกดอากาศ และเข็มทิศดิจิตอลในต้ว สามารถกันน้ำได้ลึก 100 เมตร แบตเตอรี่ชาร์จเต็มสามารถใช้งานในโหมดนาฬิกาได้ถึง 3 เดือน (ใช้ได้ 50 ชม. ในโหมด UltraTrac และ 16 ชม.ในการใช้ GPS) และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดรอบขาและความเร็วในการปั่นจักรยาน รวมทั้งเอาไว้ใช้เป็นรีโมทถ่ายภาพให้กับกล้อง VIRB ของ Garmin ได้
สำหรับคนเล่นไตรกีฬา Fenix 3 เป็นนาฬิกาที่ใช้ได้เป็นอย่างดี เก็บข้อมูลต่างๆ ได้หมดทั้ง Running Dynamics, Recovery Check สำหรับการวิ่ง, VO2 Max และ Power Meter ในการปั่นจักรยาน, Swim Metrics และ Swim Drill Logging สำหรับการว่ายน้ำทั้งแบบ open water และการฝึกว่ายในสระ
Fenix 3 ราคาเริ่มต้นที่ 15,490 บาท (รุ่น Silver & Grey) และ 20,490 บาท สำหรับรุ่น Sapphire
Garmin Connect
ระบบเก็บข้อมูลการออกกำลังกายต่างๆ ของผู้ใช้ ซึ่งรองรับกับทุกอุปกรณ์ของ Garmin ไม่ว่าจะเป็น vívofit 2, vívoactive และ Fenix 3 ผู้ใช้สามารถนำเอาอุปกรณ์อัพโหลดข้อมูลที่บันทึกไว้ผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เข้ามาเก็บเป็นสถิติไว้ได้ เพื่อให้ระบบนำข้อมูลในการออกกำลังกายแต่ละวันมาประมวลเพื่อรายงานถึงคุณภาพและวิวัฒนาการของการเล่นกีฬาของผู้ใช้ว่าพัฒนาขึ้นหรือไม่ รวมถึงนำเอาไปประมวลผลเพื่อจัดเป็นแผนการฝึกฝนให้กับผู้ใช้สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านกีฬาให้ดียิ่งขึ้นด้วย
และใน Garmin Connect ยังมีระบบ Social ที่แสดงผลของการออกกำลังกายกับเพื่อนหรือผู้ใช้อื่นๆ ที่ใช้อุปกรณ์ของ Garmin เพื่อทำสถิติแข่งขันกันได้ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้ออกกำลังกายมากขึ้น
Connect IQ
เป็นระบบใหม่ที่ Garmin ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับ vívoactive และ Fenix 3 ที่จะเป็นการโหลดแอพเพื่อใช้งานเพิ่มเติมบนอุปกรณ์ อาทิเช่น เปลี่ยนหน้าตาของหน้าปัดนาฬิกา, เปลี่ยนรูปแบบการแสดงข้อมูล ซึ่งจะมีทั้งของ Garmin พัฒนาและจากนักพัฒนาอิสระจากทั่วโลกส่งเข้ามาให้ผู้ใช้สามารถโหลดไปใช้งานในอุปกรณ์ของตัวเองได้ ถือเป็นความสามารถใหม่ที่ทำให้อุปกรณ์มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
สินค้าทั้ง 3 ตัวนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากคนไทยเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่ว่าสินค้าล็อตแรกที่เข้ามาขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว ตอนนี้สามารถสอบถามและหาซื้อสินค้าได้กับทางตัวแทนจำหน่าย หรือที่เว็บไซท์ www.gpssociety.com