หากเรามีความรู้ทักษะสกิลในการเข้าถึงพื้นที่ตั้งแคมป์ การอ่านสภาพอากาศ ลักษณะภูมิศาสตร์และรู้จักขีดจำกัดของร่างกาย เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ทุกอย่างปลอดภัยและให้การไปแคมป์เดินป่าทุกครั้งสนุกมากขึ้น
Outdoor Safety: 10 ทิปง่ายๆ ให้คุณ outdoor แบบปลอดภัย
หากเรามีความรู้ทักษะสกิลในการเข้าถึงพื้นที่ตั้งแคมป์ การอ่านสภาพอากาศ ลักษณะภูมิศาสตร์และรู้จักขีดจำกัดของร่างกาย เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ทุกอย่างปลอดภัยและให้การไปแคมป์เดินป่าทุกครั้งสนุกมากขึ้น

1. ไปกันเป็นก๊วน ตามสุภาษิตว่าไว้ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย นั้นคือ การจะทำอะไรที่มีความเสี่ยง ถ้าไปคนเดียวอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ถ้าไปกันสองคนจะได้สามารถช่วยกันได้ การไปแคมป์ เช่นกัน ถ้าไปกันหลายคนก็จะได้ช่วยกันหลายมือและสนุกกว่าไปคนเดียวด้วย ยิ่งการไปเที่ยวในพื้นที่ห่างไกล ก็ควรไปกันอย่างน้อย 4 คน
2. เช็คสถาพร่างกาย ตรวจดูสภาพความฟิตของร่างกายของทีมงาน ดีไซน์แผนการแคมป์ แผนเดินป่าก็ตามต้องอิงจากคนที่อ่อนที่สุด ตรวจสอบทีมว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่เพื่อการวางแผนที่ครอบคลุมมากขึ้น และหากเราคนใดคนหนึ่งอยู่ในช่วงไม่สบายก็ควรให้เลื่อนออกไปก่อน
ในแคมป์ที่มีการเดินป่าเข้ามาผสม นอกจากความฟิตของร่างกายแล้ว เราควรมีทักษะในการใช้แผนที่และเข็มทิศ การกางแคมป์แบบชั่วคราวเพื่อหลบฝน การปีนไต่เขาและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

3. อย่าลืมชุดปฐมพยาบาล เวลาแพคของใส่กระเป๋า อย่าลืมชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นใส่เข้าไปด้วย ทั้งนี้ชาวแคมป์ก็ควรเรียนรู้สกิลปฐมพยาบาลอย่าง การทำแผลสด การดูแลรักษาแผลฟกช้ำ การปฐมพยาบาลกระดูกหักและการถูกสัตว์พิษต่อยกัดเบื้องต้น
4. ดูฤดูฟ้าฝนให้ดี วางแผนล่วงหน้าทุกครั้งก่อนออกทริป สังเกตดูว่าเราจะไปในช่วงไหนและมีโอกาสเกิดฝนมากน้อยแค่ไหน เพราะจะได้จัดเตรียมชุดเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันฝนได้ถูกต้อง จากนั้นก็เพิ่มสกิลในการอ่านอากาศ เพราะเวลาขึ้นอยู่บนเขา สภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและรวดเร็วมาก

5. เลือกชุดเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูและสถานที่ เมื่อวางแผนและรับรู้ถึงสภาพอากาสเรียบร้อยแล้วก็จัดเตรียมชุดออกแคมป์เดินป่าให้ดี โดยปกติในร้านเดินป่าทั่วไปจะมีกางเกงสำหรับกิจกรรมแคมป์ปิ้งโดยเฉพาะ แห้งเร็วและระบายอากาศได้ดี พยายามหลีกเลี่ยงกางเกงยีนส์และผ้า Cotton เพราะเวลาเปียกจะระบายน้ำได้ช้า อุ้มน้ำ ทำให้อับชื้นและหนัก ถ้าไม่อยากซื้อชุดแคมป์เพิ่มก็แนะนำชุดกีฬา เพราะสามารถระบายเหงื่อและแห้งเร็ว
6. จัดเลือกอุปกรณ์แคมป์ปิ้งให้เหมาะกับทริป หลังจากจัดชุดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ต่อไปก็ตรวจเช็คดูอุปกรณ์สำหรับการไปแคมป์ เลือกให้เหมาะกับกิจกรรม หากมีการเดินป่าเข้า อุปกรณ์อย่างไม้เท้าเดินป่า มีด กระติกน้ำ หมวกกันแดด เข็มทิศและแผนที่ก็ควรจัดเตรียมไว้ให้ดี หรือหากเป็นแคมป์คาร์ อุปกรณ์ทำอาหาร เต็นท์ เก้าอี้และอุปกรณ์ให้แสงสว่างก็จัดเตรียมใส่รถไว้ได้เลย
7. ตั้งแคมป์ก่อนมืดเสมอ กฎการออกแคมป์ ไว้ว่าจะไปเดินป่า หรือขับรถไปตั้งเต็นท์ก็ตาม ต้องตั้งเต็นท์ก่อนมืดเสมอ เพราะเวลากลางคืนจะมีวิสัยทัศน์ที่แย่ (มองไม่เห็น) โอกาสเกิดอุบัติเหตุจะสูงกว่าเวลากลางวันที่เรายังมองเห็นอะไรๆ ชัดเจน
8. น้ำและอาหาร เรียนรู้สุขลักษณะในการประกอบอาหารและการหาน้ำดื่ม เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องเสียและอาหารเป็นพิษ
9. ระวังสัตว์ป่า แมลงและสัตว์มีพิษ ชาวแคมป์โปรดพึ่งระวังสัตว์ป่าและสัตว์มีพิษทุกครั้งที่ออกแคมป์เดินป่า พยายามเดินในเส้นทางหรือสถานที่ที่ได้จัดเตรียมไว้แล้ว การออกนอกลู่นอกทางมีโอกาสเข้าไปรบกวนถิ่นหรือทางเดินของสัตว์ป่าได้ เวลากางเต็นท์ก็พยายามเลือกดูสถานที่ว่ามีรังแมลงอยู่หรือไม่ จัดเก็บอาหารและของกินให้มิดชิด ไม่ควรรับประทานอาหารในเต็นท์ เพราะเศษอาหารจะเรียกสัตว์แมลงเข้ามาได้
10. อุปกรณ์สื่อสาร ในยุค 4.0 ชาวแคมป์ควรมีเบอร์ติดต่อฉุกเฉินและแบตเตอรี่สำรองไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ควรมีการโหลดแผนที่ลงไว้ในแอพแผนที่ หรือหากมีนาฬิกาเดินป่าก็ควรตั้งจุดเริ่มเดินทางและจุดจบ เอาไว้ใช้นำทางเวลาเกิดหลงป่าขึ้นมา หากเข้าไปในพื้นที่ป่าลึก ก็ควรติดต่อและไปกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้และไกด์ทุกครั้ง บางพื้นที่ที่สัญญาณโทรศัพท์เข้าไม่ถึง ก็ต้องพึ่งวิทยุพกพา (walkie talkie) ใช้แทน

ตบท้ายสักนิด ด้วยวิธีการรับมือการหลงป่าการหลงทางที่อาจจะเกิดขึ้นกับทุกคนได้ นั้นคือ พยายามจำจดและสังเกตสิ่งแวดล้อมข้างกายให้ดีทุกครั้งที่ออกเดินทาง ลักษณะรูปร่างของภูเขาและลักษณะพืชพรรณ หากเกิดหลงทางให้ตั้งสติและหยุดอยู่กับที่ไว้ก่อน พยายามใช้เครื่องมือที่มีอย่างแผนที่ในมือถือหรือการโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ เวลาค้ำคืนก็ห้ามเดินทางเคลื่อนย้ายไปไหน และวิธีสุดท้ายให้พยายามเดินทางตามแม่น้ำลำคลองเข้าไว้ ซึ่งส่วนมากจะไหลไปยังพื้นที่หมู่บ้าน
อ้างอิง www.fs.fed.us