ข้อดีที่ใครๆ ก็สนใจวิ่งแบบ Virtual Run หรือ Virtual Race คืออะไร ทำไมใครๆ ก็สนใจการวิ่งแนวนี้มากขึ้น อาจเป็นเพราะ หลังจากลงทะเบียนสมัครวิ่งแข่งขันเรียบร้อยแล้ว เราไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ ไม่ต้องรีบฝ่าฝูงชนไปเข้าจุดสตาร์ท ไม่ต้องตื่นเต้นกับบรรยากาศการแข่งขันอันเร้าร้อน ไม่มีจุดเช็คพอนต์และไม่ต้องวิ่งเบียดแย่งพื้นที่กับคนอื่นเขา แถมยังได้เสื้อเหรียญเหมือนกัน
Virtual Run หรือ Virtual Race คืออะไร
เป็นการวิ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง จะเริ่มวิ่งพื้นที่ไหนเวลาไหนก็ได้ตามที่สะดวก กฎกติกาก็จำกัดแบบง่ายๆ นั้นคือ วิ่งให้ครบระยะในเวลาที่กำหนด อาจจะภายในหนึ่งวันหรือหนึ่งเดือน ต้องมีอุปกรณ์จับเวลา ระยะทางและสัญญา GPS ที่สามารถอัพโหลดเข้าระบบตรวจเช็คได้ต่อไป แต่การวิ่งแบบนี้ก็มีจุดอ่อนเหมือนกันนั้นคือ ต้องการความซื่อสัตย์ของนักวิ่งมาก
การเริ่มมีตัวตนของ Virtual Run หรือ Virtual Race มีหลักฐานไม่ชัดเจน แต่เริ่มเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระแสหลักประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา อาจจะเริ่มจากการเรียกร้องอยากร่วมงานวิ่งแข่งขันที่เป็นแบบที่เป็น Physical race งานวิ่งที่จัดในพื้นที่แข่งขันจริงๆ แต่ตัวนักวิ่งนั้นอยู่ในพื้นที่ไกล ไม่สามารถเข้าร่วมได้ ประกอบกับการพัฒนาของเทคโนโลยี นาฬิกา GPS และแอพวิ่งต่างๆ ที่สามารถบันทึกและแชร์ข้อมูลกันได้ทั่วถึงมากขึ้น จนกระทั้งการแข่งขันใหญ่ๆ ได้จัดกิจกรรม Virtual Race ให้เป็นกิจกรรมหลัก จการวิ่งแบบนี้จึงเริ่มมีตัวตนชัดเจนมากขึ้น อย่างเช่น New York Marathon ที่มี TCS New York City Marathon – Virtual 26.2M โปรแกรมวิ่ง เวอร์ช่วล รัน ที่วิ่งแข่งขันไปพร้อมๆ กับนักวิ่งบนสนามจริง แม้ว่าคุณจะอยู่ในส่วนใดของโลกก็ตามก็สามารถวิ่งไปพร้อมกันได้ (กำหนดวิ่งวันเวลาพร้อมกัน และใช้เวลา Cut-off ที่กำหนดจากสนามจริง) เป็นต้น

ประโยชน์ที่ดึงดูดนักวิ่งให้หันมาเล่น เวอร์ช่วล รัน
ความสะดวกสบายเป็นสาเหตุหลัก เพราะมีนักวิ่งหลายคนต้องการร่วมงานวิ่งแข่งขัน ณ สถานที่จัดจริงๆ แต่เพราะด้วยเหตุผลอันใด จึงไม่สามารถทำให้เขาไม่สะดวกในการเข้าร่วมได้ แต่ด้วยการสมัครวิ่งแบบ Virtual Run หรือ Virtual Race เขาจะได้รับบรรยากาศเสมือนวิ่งแข่งขันไปด้วยกันได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานที่จัดงานก็ตาม หากมีหลักฐานเวลาวิ่งกับระยะทางที่บันทึก เขาก็จะได้รับเหรียญรางวัลและได้รับเสื้อเหมือนกัน

การวิ่งแบบ เวอร์ช่วล รัน ยังสามารถใช้เป็นโปรแกรมฝึกซ้อมอย่างหนึ่งได้เช่นกันเป็นการเทรนเสมือนจริงที่นักวิ่งสามารถทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ฝึกระบบการรับอาหารระหว่างวิ่งระยะไกลการดื่มน้ำ การพักฟื้นร่างกายหลังแข่งขัน ตลอดจนสามารถใช้เป็นการกระตุ้นแรงใจ (Motivation) ให้อยากฝึกวิ่งต่อไปอย่างเช่น การลงวิ่งเก็บระยะ 10Kไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมเสื้อและเหรียญ ได้ทั้งซ้อมและได้รางวัลไปในตัว
การทำงานของ เวอร์ช่วล รัน

- สมัครลงทะเบียนออนไลน์ เลือกระยะวิ่งที่ต้องการ และจ่ายเงิน
- มีเงื่อนไข โดยแต่ละระยะวิ่งที่เราเลือก จะมีเวลากำหนดไว้ชัดเจน อย่างเช่น วันเวลาที่สามารถเริ่มวิ่งและกำหนดเวลาสิ้นสุด ส่วนมากจะประมาณ 1 วัน จนถึง 1 เดือน
- วิ่งเก็บระยะทางไปเรื่อยๆ จนครบหรือวิ่งครั้งเดียวจนจบระยะ ข้อดีของการวิ่งแบบ Virtual คือ เราสามารถวิ่งเก็บสะสมระยะทางได้ เพราะแอพหรือนาฬิกาวิ่ง GPS สามารถบันทึกข้อมูลการวิ่งแต่ละครั้งได้
- ส่งหลักฐาน หลังจากจบการวิ่งแต่ละครั้ง นักวิ่งต้องทำการส่งหลักฐานไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลของผู้จัด Vitual Run อาจจะเป็นไฟล์สกุล .GPX หรือถ่ายรูปหน้าจอแอพ อันประกอบด้วย ระยะเวลา ระยะทาง วันเวลา และอาจรวมถึงรูปตัวนักวิ่งเองด้วย
- ตรวจผลและจัดส่งรางวัล หลังจากส่งข้อมูลการวิ่งแล้ว ผู้จัดจะทำการตรวจผลการวิ่ง เมื่ออนุมัติว่าผ่านแล้วจะจัดส่งรางวัลผ่านทางไปรษณีย์มาให้เราที่บ้าน

ดูเหมือนการวิ่ง เวอร์ช่วล รัน จะดูดีไปหมดแต่ในความจริงแล้ว การวิ่งแบบนี้ยังขาดบรรยากาศการวิ่งแข่งขันจริงเทียบได้เหมือนการเข้าไปดูคอนเสริต์แบบ Live หรือดูผ่านเทปบันทึกภาพย้อนหลังที่จะให้ความรู้สึกต่างกันการวิ่งแบบนี้ยังต้องอาศัยความสื่อสัตย์ของตัวนักวิ่งสูงด้วยเพราะไม่มีใครมาตรวจดูแบบตัวต่อตัวให้ จนบางครั้งก็คิดว่าแค่สมัครจ่ายตังค์ก็เหมือนกับได้รางวัลไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกต้องการเซฟเงินในกระเป๋าหรือหาแรงกระตุ้นในการฝึกซ้อมการวิ่ง เวอร์ช่วล รันก็เป็นทางเลือกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ
อ้างอิง www.active.com web.42race.com
Discussion about this post